General

องค์การเภสัชกรรม เตรียมผลิต ‘วัคซีนไข้หวัดนก’ 1-4 แสนโดสต่อปี รองรับการระบาด-หนุนความมั่นคงด้านวัคซีน

องค์การเภสัชกรรม เตรียมผลิต “วัคซีนไข้หวัดนก” ระดับอุตสาหกรรม 1-4 แสนโดสต่อปี รองรับการระบาด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ความมั่นคงด้านวัคซีนของไทย

พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนก (Avian influenza,AI) สายพันธุ์ A (H5) ซึ่งจากข้อมูลสถิติองค์การอนามัยโลก (WHO; World Health Organization) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 – พ.ศ.2567 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 889 ราย และเสียชีวิต 463 ราย จาก 23 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานยืนยันการแพร่จากคนสู่คน

จากสถานการณ์ดังกล่าว องค์การเภสัชกรรมจึงได้รับมอบหมายจาก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดของโรคดังกล่าว

วัคซีนไข้หวัดนก

เตรียมผลิตวัคซีนไข้หวัดนกในระดับอุตสาหกรรม

โดยขณะนี้องค์การเภสัชกรรม จัดทำแผนขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ (H5N2) ชนิดเชื้อเป็น (Fluvac H5) เพื่อรองรับการระบาด (Emergency Use Authorization) โดยองค์การเภสัชกรรมมีแผนจะขยายกำลังการผลิต เพื่อขอรับใบอนุญาตในระดับอุตสาหกรรม และเพื่อพัฒนาการผลิตวัคซีนให้สอดคล้องกับมาตรฐานปัจจุบัน

โดยจะดำเนินการผลิตวัคซีนจำนวน 100,000 – 400,000 โดส/ปี เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการยื่นขอทะเบียนตำรับ (Rolling submission) สำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ภายในปี พ.ศ.2568 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคง ด้านวัคซีนของประเทศในการรองรับการระบาดของโรคไข้หวัดนกในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป

วัคซีนไข้หวัดนก

ความพร้อมด้านวัคซีนไข้หวัดนก ช่วยลดผลกระทบเมื่อเกิดการระบาด

สำหรับสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมจากโรคไข้หวัดนก (Avian influenza, AI) สายพันธุ์ A (H5N1) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 – พ.ศ.2567 ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 25 คน และเสียชีวิต จำนวน 17 คน

ส่วนสถิติของผู้ติดเชื้อทั่วโลกในช่วงปี พ.ศ. 2567 พบว่าในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อจากฟาร์มโคนม ฟาร์มสุกร และในฟาร์มกลุ่มสัตว์ปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อ จำนวน 66 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ที่ทำงานในฟาร์มโคนม โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในกลุ่มนี้

วัคซีนไข้หวัดนก

อย่างไรก็ตามในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา และเวียดนาม ยังคงมีการรายงานการติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชา ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตลอดทั้งปี 2567 จำนวน 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ส่วนในประเทศเวียดนาม มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต 1 ราย โดยการระบาดของโรคดังกล่าว ยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย

โดยจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก (Avian influenza) สายพันธุ์ A (H5N1) ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2567 ในประเทศกัมพูชา พบจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต วันที่ 2 เม.ย.2567 ประเทศเวียดนาม พบจำนวนผู้ติดเชื้อ 1 ราย จำนวนผู้เสียชีวิต 1 ราย และวันที่ 2 ก.ย.2567 ประเทศกัมพูชา พบจำนวนผู้ติดเชื้อ 1 ราย จำนวนผู้เสียชีวิต 1 ราย

ทั้งนี้ ในประเทศไทยยังคงมีมาตรการการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องจากกรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช รวมถึงกรมควบคุมโรค โดยสถานการณ์ในประเทศยังไม่พบผู้ป่วยผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 (ค.ศ.2006) เป็นต้นมา

large news 8 1 2568 3 46b9b48b82

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีนของประเทศไทย ให้มีศักยภาพผ่านการผลิตภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วโลก และมักพบอยู่ประปราย โอกาสที่ไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธุ์ก็เกิดขึ้นได้เสมอ และหากเกิดการระบาดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อวงกว้าง การเตรียมความพร้อมในด้านวัคซีน จะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo