“นฤมล” ต้อนรับนายกฯ เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ น้ำ ป่า อาชีพ มุ่งพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ น้ำ ป่า อาชีพ และการใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชนตามแนวทางพระราชดําริ
นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายภาพรวมโครงการจากผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการศึกษา ทดลอง วิจัย และนำผลสำเร็จจัดทำเป็นหลักสูตรฝึกอบรมนำไปขยายผลสู่ชาวบ้าน ที่ยึดหลักการต้นทางเป็นป่า ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม
จากนั้น ได้เยี่ยมชมนิทรรศการในพื้นที่โครงการ 1 และ 2 มีทั้งหมด 16 จุด อาทิ ภาพพระราชกรณียกิจเสด็จฯ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ งานศึกษาและพัฒนาป่าไม้ โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานส่งเสริมพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ในระหว่างเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ นายกรัฐมนตรี ได้ชิมกาแฟ น้ำผึ้งธรรมชาติ ชิมน้ำข้าวก่ำลืมผัว พร้อมชมว่ามีกลิ่นหอมของข้าว
นายกรัฐมนตรี ยังได้รดน้ำต้นรวงผึ้งเป็นที่ระลึกในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จากนั้นเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากพืชการเกษตร และชมบ่อเลี้ยงกบ ก่อนเดินทางไปภารกิจจุดต่อไป
รมว.นฤมล กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่ครอบคลุม ทั้งหมด 8,500 ไร่ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บูรณาการทำงานร่วมกันเป็นหน่วยงานปฏิบัติงานในพื้นที่
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ได้สนองงานตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยยึดในหลักการที่ว่า ต้นทางเป็นป่าไม้ ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม โดยเริ่มจากการฟื้นฟูป่าไม้จากป่าเต็งรังเป็นป่าเบญจพรรณ จากเดิมในปี 2525 ป่าเต็งรัง มี 80% และป่าเบญจพรรณ มี 20% หลังจากได้มีการพัฒนาฟื้นฟูป่าตามแนวพระราชดำริ ทำให้พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น โดยปัจจุบัน ปี 2567 ป่าเต็งรังมีอัตราที่ลดลงถึงร้อยละ 36% และป่าเบญจพรรณ มีอัตราที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 64%
รมว.นฤมล ยังเปิดเผยถึงผลความสำเร็จของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ว่า ศูนย์ดังกล่าว ถือเป็นศูนย์กลางของการศึกษา ทดลอง วิจัย โดยมีผลงานวิจัย ที่ประสบผลสำเร็จทั้งสิ้น 267 โครงการ และได้มีการนำผลสำเร็จจัดทำเป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่นำไปขยายผลสู่ชาวบ้าน ทั้งสิ้นจำนวน 32 หลักสูตร
สำหรับในปีงบประมาณ 2567 มีประชาชนที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 1,018 ราย และมีผู้ที่เข้าร่วมศึกษาดูงาน จำนวน 21,033 คน ทั้งนี้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ยังได้ผ่านการพิจารณาด้านประสิทธิภาพ คุณภาพและความปลอดภัย โดยได้รับการขึ้นทะเบียนอาหารและเครื่องสำอาง ตามมาตรฐานเกณฑ์การผลิตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวน 44 รายการ ได้แก่ รายการเวชภัณฑ์ 8 รายการ อาหาร 36 รายการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯ สั่งปภ. อนุมัติงบฉุกเฉิน จังหวัดน้ำท่วมภาคใต้ ด่วน!!
- ‘นฤมล’ สั่งทุกกรมของกระทรวงเกษตรฯ ระดมทุกสรรพกำลังช่วยน้ำท่วมภาคใต้
- เตรียมพร้อมจัดงาน ‘เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg