DSI แจ้ง 3 ข้อหา “ดิไอคอน-18 บอส” แชร์ลูกโซ่-ขายตรง ด้าน “ทนายบอสพอล” จ่อแจ้งเอาผิดเพิ่ม 5 คน “บิ๊กเต่า” เตรียมเรียก “แม่ ส.” ให้ปากคำสัปดาห์นี้
ความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ รับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 70/2567 ของกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ในการดำเนินคดีอาญากับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 19 ราย
พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พันตำรวจโทอนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเดินทางไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา 18 คน และในฐานะผู้แทนนิติบุคคลอีก 1 รายได้แก่
ความผิดฐาน (1) “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (2) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงลักษณะเป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น” และ(3) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากหลังรับสำนวนการสอบสวนมาดำเนินการแล้ว มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบพยานหลักฐานที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายดังกล่าว และเห็นว่าพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันทำในลักษณะแบ่งหน้าที่กัน ประกอบด้วยทีมบริหาร แม่ทีมบรรยายชักชวนร่วมลงทุน และทีมผู้มีชื่อเสียงที่สร้างตัวตนให้เห็นความร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งหมด
หลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะให้โอกาสผู้ต้องหาทั้ง 19 คน (รวมนิติบุคคล) นำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ตามขั้นตอนกฎหมาย หากประสงค์ยื่นคำให้การเป็นเอกสารหรือยื่นพยานหลักฐานประกอบการแก้ข้อกล่าวหาให้รวบรวมหลักฐาน เสนอมายังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษภายใน 15 วัน นับแต่รับทราบข้อกล่าวหาเพื่อพิจารณาต่อไป เว้นแต่มีเหตุอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทั้งนี้ กรณีอ้างพยานบุคคลเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้สอบข้อเท็จจริงและจัดทำบัญชีพยานบุคคลโดยต้องระบุข้อมูลของพยานแต่ละคนเพื่อทำบัญชีพยานและประเด็นที่จะใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย
ด้านร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอเผยว่า ดีเอสไอเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม สำหรับพฤติการณ์ของแชร์ลูกโซ่นั้น มีองค์ประกอบความผิดที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้ข้อเท็จจริงแก่ดีเอสไอไว้ว่า เข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ เช่น ความหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนคืออย่างไร การประกอบกิจการเช่นนี้เป็นการประกอบกิจการที่ผิดกฎหมาย หรือประกอบกิจการโดยที่ไม่สามารถนำเงินมาจ่ายผลตอบแทนได้หรือไม่ การนำเงินมาหมุนเวียนจ่าย การให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดไว้ จึงเข้าองค์ประกอบความผิดชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะสู้ในประเด็นที่ว่าแผนธุรกิจมีตัวสินค้าจริงนั้น ถือเป็นสิทธิผู้ต้องหาอยู่แล้วในการแก้ข้อกล่าวหา แต่หน้าที่ของพนักงานสอบสวนคือ เรามีพยานหลักฐานพอสมควรที่จะแจ้งทั้งสองข้อกล่าวหา เราต้องพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ทั้งการสอบปากคำระหว่างบอสดาราและบอสดิไอคอนนั้น การทำความผิดเป็นลักษณะขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ดังนั้น ทุกคนอาจไม่ได้กระทำเข้าองค์ประกอบความผิดพร้อมกัน แต่ถ้าในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เราก็ต้องพิสูจน์ว่าหน้าที่แต่ละคนเมื่อมารวมกันแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ทำความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ใบสั่ง ‘บอสพอล’ จ่อแจ้งเอาผิดเพิ่ม 5 คน
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า หลวมดี หากดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมา เป็นเรื่องที่สามารถตอบได้ ชี้แจงได้อย่างเด็ดขาด ส่วนประเด็นหลักที่ดีเอสไอสอบสวน เขาใช้คำว่า “Dealer get dealer” ในพฤติการณ์คือหมายความถึง ตัวแทนที่แนะนำให้ตัวแทนคนอื่นสั่งซื้อสินค้า หรือเปิดบิล 250,000 บาทก็จะได้ค่าตอบแทน ซึ่งประเด็นนี้มันคือค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าอยู่แล้ว โดยมันไม่ได้มีตลอด หรือมีเรทตายตัว เพราะบางเดือน หรือหลาย ๆ เดือนก็ไม่มี จะมีเฉพาะช่วงที่เราต้องการทำยอด ซึ่งมันไม่ได้เป็นปกติหรือเป็นประจำของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด อีกทั้งประเด็นนี้เราตอบได้ มีหลักฐานชัด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีประเด็นหนักใจ รวมถึงเรื่องการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ก็ไม่หนักใจ เพราะมันเป็นเรื่องคะแนนที่ได้ไปท่องเที่ยวเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าเเจ้งเป็นพฤติการณ์แห่งคดีได้อย่างไร ส่วนอีกประเด็นที่ดีเอสไอกล่าวหาว่าเป็นการชักชวนคนมากกว่าการซื้อขายสินค้านั้น ซึ่งในข้อเท็จจริงมีคนมาซื้อสินค้าจริง ๆ เนื่องจากในส่วนที่ดีเอสไอระบุ เป็นการระบุพฤติการณ์ทำนองว่า ลูกค้า/ตัวแทนจ่ายเงินให้กับบริษัทฯ แล้วได้ค่าตอบแทน ซึ่งมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริง คือ ตัวแทนเปิดบิล เขาได้สินค้าไปขาย ตัวแทนไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น หรือค่าตอบแทน 48% กลับมาดังที่ดีเอสไอเข้าใจ ประเด็นนี้เราแก้ข้อกล่าวหาได้
“บิ๊กเต่า” เตรียมเรียก “แม่ ส.” ให้ปากคำสัปดาห์นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กเต่า’ จ่อเรียกแม่อดีตนักการเมือง ส. ให้ปากคำ หลังมีเส้นเงินโยงดิไอคอน
- เหยื่อดิไอคอนพุ่ง 10,460 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 3,213 ล้าน
- เปิดอาหารมื้อแรก ‘ทนายตั้ม-ภรรยา’ จัดแดนเลี่ยงเผชิญหน้า ‘ดิไอคอน’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsigh
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx