General

งานเข้า! ปปง.สั่งเร่งสืบทรัพย์ ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ แล้ว

งานเข้า! ปปง.สั่งเร่งสืบทรัพย์ “ดิไอคอนกรุ๊ป” แล้ว ชงบอร์ดธุรกรรมออกคำสั่งยึดทรัพย์ “บอส-คณะผู้บริหาร”

จากกรณีที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ได้ส่งแบบรายงานคดีกรณี นายณัฏฐ์  กับพวก (ผู้เสียหาย) รวม 90 ราย รวมความเสียหายประมาณ 35 ล้านบาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก (ผู้ต้องหา) ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4,5,12 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ส่งมายังสำนักงาน ปปง.นั้น

สืบ

นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และในฐานะโฆษกสำนักงาน ปปง. เปิดเผยว่า  นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิ การ ปปง. ได้มีคำสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปปง. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้มีการประชุมทีมเจ้าหน้าที่ในเนื้อหาสาระสำคัญ โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาดำเนินการ  โดยระหว่างนี้ ปปง. จะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ครบถ้วนจากรายงานข้อมูลของตำรวจ ปคบ.ว่าเพียงพอที่ ปปง. จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้หรือไม่ หากยังมีรายละเอียดใดที่ ปปง. ประสงค์เพิ่มเติมก็จะต้องทำการสอบถามกลับไปใหม่ เพื่อให้ได้ความถูกต้องชัดเจนมากที่สุด ทั้งในส่วนรายการทรัพย์สิน หรือตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์

สำหรับรายละเอียดภายในหนังสือแบบรายงานคดีของตำรวจ ปคบ. ที่ส่งให้ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินของบุคคล นิติบุคคลนั้น โฆษก ปปง. เผยว่า เนื้อหาภายในเกี่ยวข้องกับตัวบริษัทและบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปแล้ว ขณะที่มูลค่าความเสียหายทางตำรวจ ปคบ. ได้แจ้งมาทั้งจำนวนผู้เสียหายและจำนวนเงินที่ได้รับคำร้องทุกข์ คือ ผู้เสียหาย 90 ราย ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้อาจมีมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งเป็นประเด็นที่ตำรวจ และ ปปง. จะต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป

โฆษก ปปง. เผยอีกว่า หากข้อมูลจากตำรวจ ปคบ. ปรากฏข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินของ ปปง. เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบว่าผู้สัมพันธ์เกี่ยวข้องแต่ละรายมีการครอบครองทรัพย์สินรายการใดบ้าง และทรัพย์สินต่างๆได้มาอย่างไร จึงจะนำไปสู่กระบวนการดำเนินการกับทรัพย์สิน โดยต้องประมวลเรื่องส่งไปยังที่ประชุมของคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อมีมติออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว ทั้งนี้ในส่วนของข้อกังวลของสังคมว่า ในระหว่างนี้ที่ยังไม่ปรากฏความผิดมูลฐานอาจจะมีการจำหน่าย ยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่ได้มาจากการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดนั้น ตนต้องเรียนว่ามาตรการป้องกันกรณีดังกล่าวจะเหมือนคดีของ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะสามารถอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเบื้องต้นตามอำนาจของ ป.วิอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 16:00 น . ได้แก่ เลขาธิการ ปปง. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ เพื่อหารือแนวทางในเรื่องดังกล่าว เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo