ตะลึง! “หมวกกันน็อค” จากรถจักรยานยนต์รับจ้าง แหล่งแพร่เชื้อ “ไวรัสมาร์บวร์ก” ในรวันดา รัฐบาลไม่ระงับใช้ แต่ส่งเสริมให้ใช้อย่างปลอดภัย
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า รัฐบาลรวันดาเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสมาร์บวร์ก เนื่องจากหมวกกันน็อคของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อ แต่ยังคงให้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อไป
รัฐมนตรีสาธารณสุขรวันดา ดร. ซาบิน นซานซิมานา ออกมาเรียกร้องให้เพิ่มความระมัดระวังสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หลังพบการระบาดของโรคมาร์บวร์ก แต่ยืนยันไม่ระงับการให้บริการขนส่งยอดฮิตนี้
“โมโต” วิธีเดินทางยอดฮิต มีกว่า 7.5 หมื่นคัน
ในรวันดา โดยเฉพาะในเมืองหลวงคิกาลี รถจักรยานยนต์รับจ้างที่เรียกว่า “โมโต” หรือ “อิปิกิปิกิ” (“motos” or “ipikipiki”) เป็นวิธีเดินทางยอดนิยม ด้วยจำนวนกว่า 75,000 คันทั่วเมือง รถจักรยานยนต์ได้รับความนิยมเพราะราคาไม่แพง เดินทางได้รวดเร็วในช่วงรถติด และหาใช้บริการได้ง่าย รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญจึงออกมาตรการเพื่อความปลอดภัย เช่น บังคับใส่หมวกกันน็อค ใช้มิเตอร์คิดเงินอัตโนมัติ และพยายามนำหมวกกันน็อคมาตรฐาน UN มาใช้
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแอพ SafeMotos เพื่อช่วยผู้โดยสารเลือกคนขับที่ปลอดภัย และเริ่มมีการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ แม้จะยังมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่รถจักรยานยนต์รับจ้างก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางในรวันดา สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
หมวกกันน็อค แหล่งแพร่เชื้อ
ในการแถลงข่าวล่าสุด ท่านรัฐมนตรีชี้แจงว่า การใช้หมวกกันน็อคร่วมกันของผู้ซ้อนท้าย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการที่อาจติดเชื้อมาร์บวร์ก เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน และท้องเสีย อาจเพิ่มความเสี่ยงแพร่เชื้อ
ท่านย้ำว่าไวรัสมาร์บวร์กมีระยะฟักตัว 2-21 วัน โดยเฉลี่ย 5-9 วัน ซึ่งผู้ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการในช่วงนี้ จึงขอให้ผู้มีอาการหรือสงสัยว่าอาจติดเชื้องดใช้มอเตอร์ไซค์และรีบติดต่อกระทรวงเพื่อขอความช่วยเหลือด่วน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
ดร. นซานซิมานาตอบคำถามที่ว่า “เสี่ยงติดเชื้อไหมถ้าใช้หมวกกันน็อคที่คนอื่นใส่มาก่อน ขอย้ำว่าถ้าใครมีอาการ โดยเฉพาะไข้สูง ปวดหัวรุนแรง หรือปวดเมื่อยตามตัว อย่าขึ้นมอเตอร์ไซค์หรือใส่หมวกร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายได้”
แทนที่จะทำแบบนั้น ให้โทรสายด่วนเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จะได้ป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
แนะวิธีทำความสะอาดหมวกกันน็อค
รัฐมนตรียังเน้นย้ำเรื่องการรักษาความสะอาดในวงการนี้ โดยแนะนำให้ทำความสะอาดหมวกกันน็อคก่อนใช้เป็นมาตรการป้องกันเบื้องต้น เพื่อความไม่ประมาท ใครที่ต้องใช้หมวกร่วมกับคนอื่นควรทำความสะอาดก่อนใส่
วิธีการฆ่าเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก : เตรียมสารละลายคลอรีนเข้มข้น 0.5% ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัสมาร์บวร์ก จากนั้นใช้ผ้าชุบสารละลายเช็ดบนพื้นผิวแข็งทั้งหมดของหมวกกันน็อค โดยให้พื้นผิวเปียกทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที และหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโดยตรง
ดร. นซานซิมานาย้ำว่าการรักษาสุขอนามัยเคยช่วยควบคุมการระบาดครั้งก่อนๆ อย่างโควิด-19 ได้ผล
ตอนโควิด-19 เราเน้นเรื่องสุขอนามัย ไม่ใช่แค่หมวกกันน็อค แต่รวมถึงพื้นที่สาธารณะ ทั้งที่นั่ง ห้องน้ำ และจุดสัมผัสร่วม เราต้องระวังตัวต่อไป โดยเฉพาะในที่ที่อาจมีผู้ติดเชื้ออยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากการสัมผัสโดยตรง
ไม่ระงับใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่ส่งเสริมให้ใช้อย่างปลอดภัย
ท่านแย้งว่าการใช้มาตรการเข้มงวด เช่น การระงับการใช้บริการขนส่งยอดนิยมนี้ “ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด” การห้ามใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่ใช่ทางออก เราควรส่งเสริมให้ใช้อย่างปลอดภัยและถูกสุขลักษณะมากกว่า
รัฐบาลรวันดามุ่งมั่นสู้กับทุกการระบาด โดยใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการที่เข้มงวดเกินไป เป้าหมายคือจัดการสถานการณ์ไปพร้อมๆ กับการใช้ชีวิตปกติ โดยไม่ต้องออกมาตรการที่สร้างความลำบาก
ขณะเดียวกัน ท่านรัฐมนตรีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า รวันดาเริ่มทดลองฉีดวัคซีนมาร์บวร์กแล้ว โดยระยะแรกมุ่งเป้าไปที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโดยตรง รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อ
กระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่าประเทศได้รับวัคซีน 700 โดสเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 และผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ แล้ว ทำให้สามารถเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงได้
“วัคซีนมาถึงรวันดาเมื่อคืน ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและโปรแกรมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ ซึ่งประเมินและเตรียมพร้อมแล้ว วันนี้เราจึงเริ่มฉีดให้กับผู้ที่เสี่ยงสูงสุดต่อการระบาดครั้งนี้ได้” ดร. นซานซิมานากล่าว
ล่าสุด รวันดายืนยันผู้ป่วยโรคมาร์บวร์ก 46 ราย เสียชีวิต 12 ราย หายป่วย 5 ราย และตรวจคัดกรองไปแล้วกว่า 1,700 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ด่วน! ‘ไวรัส มาร์บวร์ก’ โผล่ที่เยอรมนี นักวิจัยเฝ้าระวังเสี่ยงแพร่กระจายทั่วโลก
- จับตา ‘ไข้หวัดนก’ ติดเชื้อจากคนสู่คน หลังบุคลากรทางการแพทย์ 6 รายในรัฐมิสซูรี มีอาการจากการสัมผัสผู้ป่วย
- เปรียบเทียบความแตกต่าง การระบาด ‘ไข้หวัด นก H5N1’ ในกัมพูชาและสหรัฐ ‘บทเรียนสำหรับไทย’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx