General

ไม่จริง! ทำบัตรผู้พิการ หลัง 31 ส.ค.จะหมดสิทธิรับเงินหมื่น ย้ำขยายเวลาถึง 3 ธ.ค. 2567

ไม่จริง! ทำบัตรผู้พิการ หลัง 31 ส.ค.จะหมดสิทธิรับเงินหมื่น ย้ำ พม. ขยายเวลาทำบัตรถึง 3 ธ.ค. 2567

ตามที่มีข้อมูลเรื่องผู้พิการที่ทำบัตรผู้พิการหลัง 31 สิงหาคม 2567 จะไม่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ

โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 เห็นชอบเงินที่จะมอบให้พี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง เป็นกลุ่มแรก รายละ 10,000 บาท

ทำบัตรผู้พิการ

ขยายเวลาลงทะเบียนทำบัตรถึงวันที่ 3 ธ.ค.

รัฐบาลได้ขยายเวลาลงทะเบียนให้กับคนพิการทุกคนทั่วประเทศ ไปจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เพื่อที่จะได้รับสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท ผู้พิการที่ทำบัตรผู้พิการหลัง 31 สิงหาคม 2567 ยังสามารถทำเรื่องลงทะเบียนได้จนถึงวันเวลาที่กำหนด

สำหรับคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้

ทำบัตรผู้พิการ

รอบจ่ายซ้ำสำหรับผู้พิการ

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เริ่มโอนจ่ายเงิน 1 หมื่นบาท ให้กลุ่มเปราะบางรวมถึงคนพิการครั้งแรกในวันที่ 25-30 กันยายน 2567 โดยจะมีรอบการจ่ายซ่ำอีก 3 รอบ สำหรับผู้ที่โอนเงินไม่สำเร็จ ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ หรือ ยังไม่ได้ลงทะเบียนทำบัตร ดังนี้

  • รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 1 วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ผู้พิการต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567
  • รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 2 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567
  • รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 3 วันที่ 22 ธันวาคม 2567 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงิน

 อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo