ศูนย์จีโนม เผยไข้หวัดนกระบาดอย่างฉับพลันในแมวและสุนัขใน 31 รัฐของสหรัฐ แนะวิธีสังเกตอาการ วิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากไข้หวัดนก
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง 31 รัฐในสหรัฐฯ เผชิญไข้หวัดนกในแมวและสุนัข: คู่มือรับมือฉบับเร่งด่วนที่เจ้าของควรรู้
ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีก เป็นโรคที่น่ากังวลสำหรับนกและสัตว์ปีกมานาน แต่ล่าสุดมีการระบาดอย่างฉับพลันในแมวและสุนัขใน 31 รัฐของสหรัฐ ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเกิดความวิตกกังวล
บทความนี้จะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไข้หวัดนกและผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง เพื่อให้คุณสามารถปกป้องเพื่อนขนฟูของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไข้หวัดนกคืออะไร และแพร่กระจายอย่างไร?
ไข้หวัดนก หรือ Influenza สายพันธุ์ H5N1 เป็นไวรัสที่แพร่กระจายในนกเป็นหลัก แต่สามารถกระโดดข้ามไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ การแพร่กระจายเกิดจาก
- การสัมผัสโดยตรงกับนกติดเชื้อ
- การสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนอุจจาระ น้ำลาย หรือน้ำมูกของนกติดเชื้อ
สถานการณ์การระบาดในสหรัฐ
การระบาดพบใน 31 รัฐ โดยเฉพาะในรัฐโคโลราโด มิชิแกน และรัฐในภาคตะวันตกกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุที่รัฐเหล่านี้ได้รับผลกระทบหนักเนื่องจาก
- อยู่ใกล้เส้นทางอพยพของนก
- มีพื้นที่ชนบทที่สัตว์เลี้ยงอาจสัมผัสกับนกป่าติดเชื้อได้ง่าย
อาการทั่วไปในแมวและสุนัขที่ติดเชื้อไข้หวัดนก
หายใจลำบาก
– อ่อนเพลีย
– ไอ
– มีไข้
– เบื่ออาหาร
– อาการคล้ายไข้หวัดอื่นๆ
ในกรณีรุนแรง อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
วิธีที่สัตว์เลี้ยงติดเชื้อ
- การสัมผัสกับนกป่าติดเชื้อ เช่น เป็ดหรือห่าน
- การกินนกติดเชื้อ
- การหากินในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน เช่น บริเวณใกล้ทะเลสาบหรือสระน้ำ
- สัตว์เลี้ยงในพื้นที่ชนบทมีความเสี่ยงสูงกว่า
ความแตกต่างระหว่างแมวและสุนัข
แมว: มีความอ่อนไหวต่อไข้หวัดนกมากกว่า เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะล่าหรือไล่ตามนก อาจแสดงอาการเร็วกว่า โดยเฉพาะหากอาศัยใกล้แหล่งน้ำที่นกป่าชอบไปมา
สุนัข: มีแนวโน้มติดเชื้อน้อยกว่า แต่ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะสุนัขที่อยู่ใกล้ฟาร์มสัตว์ปีกหรือพื้นที่ชนบท มักมีอาการเบากว่าแมว
การกลายพันธุ์ของไวรัส
สายพันธุ์ H5N1 ได้กลายพันธุ์ ทำให้แพร่กระจายไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ง่ายขึ้น ซึ่งน่ากังวลเพราะอาจแพร่กระจายไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสปีชีส์อื่นๆ มากขึ้น
วิธีป้องกันสัตว์เลี้ยง
1. หลีกเลี่ยงการปล่อยสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่อาจสัมผัสกับนกป่า
2. ให้แมวอยู่ในบ้าน และสุนัขอยู่ในสายจูงเมื่อพาออกนอกบ้าน
3. ทำความสะอาดชามอาหาร ของเล่น และที่นอนของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
ความเสี่ยงต่อมนุษย์
ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสจะแพร่จากสัตว์เลี้ยงสู่มนุษย์ได้ง่าย แต่ควรรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือหลังจับต้องสัตว์เลี้ยง
สถานะการฉีดวัคซีน
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกสำหรับแมวและสุนัขที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกา การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ผลกระทบต่อสัตว์ป่า
ไข้หวัดนกยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า เช่น สุนัขจิ้งจอก สกั๊งค์ และแรคคูน ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของไวรัสในการข้ามพรมแดนระหว่างสปีชีส์
สิ่งที่ควรทำหากสัตว์เลี้ยงแสดงอาการ
1. ติดต่อสัตวแพทย์ทันทีหากพบอาการสงสัย
2. แยกสัตว์เลี้ยงที่สงสัยว่าติดเชื้อออกจากสัตว์อื่นๆ
การติดตามข้อมูล
เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรติดตามข้อมูลอัพเดทจากกรมอนามัยในท้องถิ่นและสมาคมสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ไข้หวัดนกระบาดในสัตว์เลี้ยงเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล แต่ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและการป้องกันที่เหมาะสม เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยปกป้องสัตว์เลี้ยงของตนได้ การเฝ้าระวังและการดูแลสุขอนามัยที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับการระบาดนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สหรัฐ พบเป็นรายที่ 14 ‘ไข้หวัดนก H5N1’ ชี้อาจเป็นรายแรก ติดเชื้อจากคนสู่คน
- ศูนย์จีโนมฯ แนะปรับตัวอย่างไรในยุคการแพร่ระบาดของ ‘โนโรไวรัส-โควิด19’
- ด่วน! นักวิจัยค้นพบ ‘แอนติบอดี SC27’ ความหวังใหม่รับมือ ‘โควิด 19’ กลายพันธุ์แค่ไหนก็จับได้
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X(Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg