General

เปิดสถิติ 11 เดือน ดีอี ลุยปิด 138,000 เว็บไซต์-เพจผิดกฎหมาย

เปิดสถิติ 11 เดือน ดีอี ลุยปิด 138,000 เว็บไซต์-เพจผิดกฎหมาย เพิ่มขึ้น 11 เท่า ทั้งประเภทบิดเบือนข้อมูล หลอกลวง และลามกอนาจาร

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ซึ่งมิจฉาชีพได้ใช้เป็นช่องทางสำคัญในการก่ออาชญากรรมทางออนไลน์

โดยจัดตั้งทีมปฏิบัติการทำการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และดำเนินการปิดกั้น พร้อมยกระดับกระบวนการปิดกั้นให้มีความรวดเร็ว รัดกุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดีอี

 11 เดือน ปิดเว็บไซต์-เพจ 138,660 รายการ

ทั้งนี้ จากสถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ของกระทรวงดีอี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566–31 สิงหาคม 2567 พบว่า มีการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมายทุกประเภทแล้ว จำนวน 138,660 รายการ เพิ่มขึ้น 11 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (1 ต.ค.2565–31 ส.ค.2566) ที่มีจำนวน 12,611 รายการ

สำหรับโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ที่มีการปิดกั้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2567 ประเภทบิดเบือน หลอกลวง และลามกอนาจาร มีดังนี้

  • บิดเบือน/หลอกลวง  จำนวน 47,471 รายการ เพิ่มขึ้น 7.68 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ ที่มีจำนวน 6,182 รายการ
  • ลามกอนาจาร จำนวน 11,948 รายการ เพิ่มขึ้น 14.82 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ ที่มีจำนวน 806 รายการ

ดีอี

อย่ากดลิงก์แพลตฟอมต้องสงสัย-เว็บผิดกฎหมาย

นายประเสริฐ กล่าววว่า จะเห็นได้ว่าในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ทำการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ผิดกฎหมายไปแล้วกว่า 138,000 รายการ โดยสถิติตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกเดือนนั้น เนื่องจากการปรับกระบวนการทำงานให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการตรวจสอบ เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลข่าวปลอม เว็บไซต์ผิดกฎหมายผ่านทางสายด่วน 1111” นายประเสริฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ มีความห่วงใยประชาชน ขออย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม ข้อมูลบิดเบือน หรือกลโกงของมิจฉาชีพที่หลอกให้เข้าไปลงทุน หรือกดลิงก์แพลตฟอร์มต้องสงสัยภายในโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมาย เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทำให้สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสูญเสียทรัพย์สินได้ หรือหากมีการเชื่อ และแชร์ข้อมูลที่อยู่ใน URLs ผิดกฎหมายต่อๆกัน อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างได้

แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) | Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo