นายกฯ สั่ง สนทช. ทำแผน 3 ปี บริหารจัดการน้ำ เสนอครม.ภายในสิ้นเดือนนี้ ย้ำนอกจากเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตรแล้ว อุตสาหกรรมน้ำต้องไม่ขาด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำ โดยกล่าวว่า น้ำถือเป็นปัญหาเร่งด่วนในประเทศไทย จึงต้องเร่งบริหารจัดการน้ำให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง คุณภาพน้ำ และน้ำอุปโภคบริโภค
โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำของภาครัฐ ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจัดทำแผนด้านน้ำระยะ 3 ปี พร้อมแผนงานระยะยาว เพื่อให้น้ำถึงไร่นา ทุกหมู่บ้านมีน้ำสะอาด เป็นการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านน้ำอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำ การปรับปรุงโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ตลอดจนการก่อสร้างโครงข่ายบริหารจัดการน้ำเพิ่มเติม โดยพิจารณาถึงความเร่งด่วนและความเหมาะสมในการใช้จ่ายงบประมาณ
เร่งจัดทำแผน 3 ปี บริหารจัดการน้ำ เสนอครม.สิ้นเดือนส.ค.
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดทำแผนงาน 3 ปีด้านทรัพยากรน้ำ และโครงการสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มน้ำอุปโภคบริโภค การปรับปรุงและพัฒนาระบบกระจายน้ำ การพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน การพัฒนาพื้นที่น้ำท่วม และป้องกันพื้นที่ชุมชน โดยให้ สนทช.เร่งทำแผนงานแก้ปัญหาด้านน้ำ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำและการจัดหาน้ำ เพื่อให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ยืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำให้กับประชาชน
พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานบริหารจัดการน้ำ บริหารจัดการน้ำไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชน เน้นการสื่อสารและแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้สถาบัน Gistda ประเมินภาพถ่ายที่น้ำท่วมซ้ำซาก ประสานงานกับกรมชลประทาน และมอบหมายกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนทช.เฝ้าติดตามสถานการณ์บริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ภาคอุตสาหกรรมน้ำต้องไม่ขาด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สนทช.เสนอแผนการบริหารจัดการน้ำภายในสิ้นเดือนสิงหาคม วันนี้ถือเป็นวันคิกออฟ และสิ้นเดือนสิงหาคมนี้จะมีการแถลงข่าวใหญ่ให้ทราบ ส่วนพื้นที่ที่น่ากังวลคือภาคตะวันออกที่ยังประสบปัญหาด้านน้ำ เช่นเดียวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางจุด จึงสั่งการให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยการปรับแผนตลอดเวลา ควบคู่กับการรายงานข้อมูลของ Gistda
พร้อมย้ำว่า น้ำมีความสำคัญต่อเกษตรกรไทย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านอาหารสูง การที่มีสถานการณ์ทางการเมืองของโลกที่ระอุอยู่และมีการแย่งชิงเรื่องอาหาร จะทำให้ไทยมีจุดเด่นด้านนี้มาก ซึ่งน้ำในประเทศไทยจะถูกใช้ไปในระบบนิเวศน์ อุปโภคบริโภค การเกษตร และการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมใหม่ ๆ จำเป็นต้องใช้น้ำมาก เมื่อมีการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในไทยแล้ว น้ำจะต้องไม่ขาดแคลน
เรื่องนี้รัฐบาลได้บูรณาการอย่างครบถ้วน หากประเทศไทยบริหารจัดการน้ำได้ดี จะเดินไปข้างหน้าได้ ตนเองมั่นใจในแผนงานของ สทนช.และสภาพัฒน์ฯ ที่ได้ทำมาจะสามารถแก้ไขปัญหาและป้องกันได้ มั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตือน! เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำ อ่างทอง-อยุธยา ระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ‘ภูมิธรรม’ ยืนยัน ‘นายกฯ’ ยังไม่ปรับครม. มั่นใจรอดคดี 14 ส.ค.นี้
- นายกฯ ยินดี ‘จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง’ คว้าเหรียญแรกโอลิมปิกให้ไทย
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsigh
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx