ปภ. ประสาน 47 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง 14-17 กรกฎาคมนี้
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (126/2567) ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2567 ร่องมรสุมกำลังแรงจะพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2567 ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง
ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองฯ ปาย แม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอจอมทอง ฮอด) เชียงราย (อำเภอแม่สาย เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง) พะเยา (อำเภอปง เชียงคำ จุน ภูกามยาว) แพร่ (อำเภอเมืองฯ สอง วังชิ้น ลอง) น่าน (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปัว บ่อเกลือ ทุ่งช้าง เชียงกลาง) อุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา น้ำปาด) ตาก (อำเภอเมืองฯ อุ้มผาง ท่าสองยาง สามเงา) พิษณุโลก (อำเภอวังทอง นครไทย ชาติตระการ) และเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองฯ หล่มเก่า หล่มสัก เขาค้อ น้ำหนาว)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอนาแห้ว ด่านซ้าย ภูเรือ ท่าลี่ เชียงคาน) หนองคาย (อำเภอเมืองฯ สังคม) บึงกาฬ (อำเภอเมืองฯ บุ่งคล้า เซกา) หนองบัวลำภู (อำเภอสุวรรณคูหา) อุดรธานี (อำเภอนายูง น้ำโสม) สกลนคร (อำเภอเมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) นครพนม (อำเภอเมืองฯ ศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อำเภอเมืองฯ คอนสาร หนองบัวแดง) ขอนแก่น (อำเภอเมืองฯ ภูผาม่าน ชุมแพ บ้านไผ่)
มหาสารคาม (อำเภอเมืองฯ) กาพสินธุ์ (อำเภอเมืองฯ ยางตลาด) มุกดาหาร (อำเภอเมืองฯ ดงหลวง หว้านใหญ่ หนองสูง) ร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองฯ เสลภูมิ) ยโสธร (อำเภอเมืองฯ ป่าติ้ว คำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองฯ ชานุมาน) นครราชสีมา (อำเภอปากช่อง วังน้ำเขียว) บุรีรัมย์ (อำเภอเมืองฯ) สุรินทร์ (อำเภอเมืองฯ ปราสาท) ศรีสะเกษ (อำเภอเมืองฯ ยางชุมน้อย) และอุบลราชธานี (อำเภอเมืองฯ บุณฑริก น้ำยืน นาจะหลวย น้ำขุ่น วารินชำราบ เดชอุดม นาเยีย)
ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอสังขละบุรี ทองผาภูมิ) นครนายก (อำเภอเมืองฯ ปากพลี) ปราจีนบุรี (อำเภอกบินทร์บุรี นาดี) สระแก้ว (อำเภอเมืองฯ) ฉะเชิงเทรา (อำเภอสนามชัยเขต ท่าตะเกียบ) ชลบุรี (อำเภอบ้านบึง ศรีราชา บางละมุง) ระยอง (อำเภอเมืองฯ แกลง บ้านค่าย) จันทบุรี (อำเภอเมืองฯ เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) ตราด (ทุกอำเภอ) และประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอบางสะพาน บางสะพานน้อย)
ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองฯ ท่าแซะ พะโต๊ะ หลังสวน) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อำเภอเมืองฯ คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อำเภอเมืองฯ เหนื่อคลอง อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา เกาะลันตา เขาพนม) ตรัง (อำเภอเมืองฯ ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด หาดสำราญ รัษฎา วังวิเศษ) และสตูล (อำเภอเมืองฯ ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า มะนัง)
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง
ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองฯ ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อำเภอเมืองฯ บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อำเภอนายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) และตราด (อำเภอเมืองฯ แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด
ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อำเภอเกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) และภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
ปภ. จึงได้ประสานแจ้ง 47 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในแต่ละพื้นที่ พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก และพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมสูง
นอกจากนี้ รวมถึงเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนพื้นที่ที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ให้พิจารณาออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ ให้ประสานกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ เพื่อแจ้งเตือนการเดินเรือ โดยให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวังให้มากขึ้น และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรงให้พิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยดังกล่าว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปภ. แนะวิธีเตรียมบ้านช่วงหน้าฝน พร้อมรับมือน้ำท่วม
- กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 2 ‘ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง’ 14-18 ก.ค.นี้
- สภาพอากาศวันนี้ 11 ก.ค. ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ระวังน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg