General

‘อนุทิน-ชาดา’ ลุยตรวจต่างด้าวทำธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมาย จังหวัดภูเก็ต พบ 19 แห่ง กระทบผู้ประกอบการไทย

‘อนุทิน-ชาดา’ ลุยตรวจต่างด้าวทำธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมาย จังหวัดภูเก็ต พบ 19 แห่ง ปล่อยห้องพัก 800 ห้อง กระทบผู้ประกอบการไทย

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมสั่งการให้กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ

ภายใต้การอำนวยการ ของนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ดำเนินการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และดำเนินการหาข่าวอันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับ การประกอบธุรกิจโดยคนต่างด้าวที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

อนุทิน

พบต่างด้าวทำธุรกิจโรงแรมโดไม่ขออนุญาต 19 แห่ง

โดยการตรวจสอบ ทีมงานได้รับข้อมูลจากที่ทำการปกครองอำเภอกะทู้ ว่าบริเวณ มาลีน พลาซ่า ป่าตอง และบริเวณอื่น ๆ ในพื้นที่ อำเภอกะทู้ มีโรงแรมที่ลักลอบเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต จึงได้ทำการลงพื้นที่ สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม

พบว่ามีสถานประกอบการที่มีการโฆษณาและเปิดให้บริการ ห้องพักแบบรายวันในลักษณะโรงแรม เก็บค่าเช่าห้องพักเป็นรายวัน แต่ไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรม และเจ้าของ/ผู้ดูแล จำนวนมากเป็นชาวต่างชาติ

โดยตรวจสอบพบ เป้าหมายจำนวน 19 แห่ง รวมกว่า 800 ห้อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อนุทิน

สำหรับภารกิจครั้งนี้มีชุดกำลังในการออกปฏิบัติการ ประกอบด้วย

  1. ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA Force) กรมการปกครอง
  2. ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต
  3. ที่ทำการปกครองอำเภอกะทู้
  4. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสถานีตำรวจภูธรป่าตอง
  5. เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต
  6. เจ้าหน้าที่สรรพากรจังหวัดภูเก็ต.

อนุทิน

ส่งผลกระทบหลายด้าน

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า การประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ทั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59 พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547

โดยการกระทำของผู้ประกอบการในลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะต่อประชาชนผู้เข้าใช้บริการ ความมั่นคงปลอดภัยของอาคารที่อาจมีการดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต และในด้าน เศรษฐกิจที่อาจจะมีการหลบเลี่ยงการเสียภาษี และอาจจะมีความเกี่ยวพันกับการฟอก เงินของกลุ่มทุนต่างชาติ

นอกจากนั้นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ผิดกฎหมายบางราย จะมีพฤติกรรมผูกขาดดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติจากชาติเดียวกันกับตนมาพัก อันจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่น และผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ กรมการปกครองยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เอาผิดตามกฎหมายในเรื่องอื่น เช่น การดัดแปลงอาคารและการใช้อาคาร ผิดประเภท การหลบเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน ซึ่งจะดำเนินการขยายผลและดำเนินคดีต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo