เปิดภาพวงจรปิด “รองสว.” จอดข้างทางชกต่อย-จ่อยิง “นักธุรกิจหนุ่ม” ดับ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คาดสาเหตุจากขัดผลประโยชน์
พลตำรวจตรีธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ร้อยตำรวจโทณรงค์วัส รองสารวัตร (สอบสวน) สน.หัวหมาก ในข้อหาพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ว่า
หลังเข้าสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีปากเสียงกันภายในรถตู้ เพราะถูกผู้เสียชีวิตหลอกว่าจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่ติดค้างจำนวน 2 ล้านบาท และอ้างว่าจะให้การช่วยเหลือโยกย้ายตำแหน่งงานจากสายงาน ‘สอบสวน’ ไปสาย ‘สืบสวน’
ผบก.น.4 กล่าวว่า จากคำให้การ ผู้ต้องหาอ้างว่า รู้จักกับผู้เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในฐานะที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้เสียหาย เข้ามาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ว่าธุรกิจถูกฉ้อโกง และต่อมาผู้เสียชีวิตได้ชักชวนผู้ต้องหาให้มาทำงานพิเศษ เป็นคนขับรถส่วนตัว และรักษาความปลอดภัย แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่า ส่วนตัวมีปัญหาเรื่องหนี้สินในระบบจำนวน 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ
จากคำให้การทั้งหมด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลให้ครบถ้วนในประเด็นที่สงสัย โดยเฉพาะต้องขยายผลในเรื่องธุรกิจของผู้เสียชีวิต ว่าทำไมต้องจ้างให้ผู้ต้องหาไปทำงานให้ แต่เบื้องต้นทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องธุรกิจสีเทา ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญครอบครัวผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ภายหลังจากชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ทำการสอบปากคำแล้วเสร็จ ก็จะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ทำการควบคุมตัว ก่อนนำไปฝากขังศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ ( 31ธ.ค. )
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า หลังจากผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุแล้วหนีไป แต่พบว่าได้ขับรถวนกลับมา เพื่อเอาโทรศัพท์มือถือ ที่ทำหล่นไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเห็นว่าคู่กรณียังไม่เสียชีวิต จึงบังคับให้โอนเงินให้ จำนวน 20 ล้านบาท แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอม จึงถูกยิงซ้ำจนเสียชีวิต และผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไปจนถูกจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบนทางพิเศษ(ด่วน)ฉลองรัช เวลาประมาณ 5 ทุ่ม 2 นาที บริเวณทางพิเศษ(ด่วน) ฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. บันทึกภาพ ขณะรถตู้คันสีดำ ของนายกฤษฎิ์ ขับผ่านมา โดยมีหมวดนัทเป็นคนขับ ซึ่งจังหวะที่จับมาจุดนี้ มีการเปิดไฟฉุกเฉิน และชะลอรถ และตบซ้ายเข้าจอดข้างทาง จากนั้นประตูฝั่งคนขับเปิดออก และรถเสียหลักชนแบริเออร์ ไม่นานนายกฤษฎิ์ และหมวดนัทก็ปลุกปล้ำกัน ล๊อกคอลงมาจากรถ และต่อสู้กัน
ขอบคุณข้อมูล สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับแล้ว ‘ร.ต.ท.’ กระหน่ำยิงดับ ‘นักธุรกิจหนุ่ม’ บนทางด่วน
- ‘อัยการ’ ส่งคืนสำนวนเด็กชาย 14 กราดยิงห้างดัง ชี้สอบสวนไม่ชอบ
- ‘นายกรัฐมนตรี’ เสียใจเหตุกราดยิงมหาวิทยาลัยดังในกรุงปราก ดับ 14 ศพ!
