เผยชื่อเจ้าของบ้านตัวจริงที่ “บิ๊กโจ๊ก” พักอาศัยกับลูกน้อง รวม 5 หลัง คือ “เฮียแต๋ม” เจ้าพ่อบริษัทขนส่งรายใหญ่ในอุดรธานี พบใช้ชื่อตัวเองและภรรยาซื้อบ้านทั้ง 5 หลังให้ “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ และจ่ายค่าส่วนกลางให้กว่า 140,000 บาท
หลังชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ชุดที่ 4 ของพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 4 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยวิภาวดี 60 ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) และสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ 8 นาย รวมทั้งพลเรือนที่อยู่ในเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ได้แล้ว 9 คนนั้น
วันนี้ (26 ก.ย.) แหล่งข่าวรายงานว่า บ้าน 5 หลังในหมู่บ้านดังกล่าว เป็นชื่อของ “เฮียแต๋ม” และภรรยา ซึ่งเป็นคนที่ทำธุรกิจอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี โดยได้ซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ไว้ และให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัย และไม่ได้เข้ามาดูแลบ้านทั้งหมดนี้มานานแล้ว
รายงานข่าว ระบุว่า เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี มีสาขาอยู่ในหลายจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ โดยธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา และมักจะต้อนรับคณะของนายตำรวจที่เดินทางไปราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อผู้ครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง เป็นชื่อของ “เฮียแต๋ม” จำนวน 3 หลัง ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และที่ระบุว่าซื้อไว้ให้พ่ออยู่อีกหลัง และชื่อของภรรยาเฮียแต๋ม อีก 2 หลัง ซึ่งเป็นที่พักของนายตำรวจติดตาม ที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร
นอกจากนั้น ยังปรากฎข้อมูลการจ่ายเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้านของบ้านทั้ง 5 หลัง ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566-มิถุนายน 2567 โดย “เฮียแต๋ม” เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้ โดยบ้านพักหลังที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัยอยู่จ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000-27,000 บาท รวมค่าส่วนกลางทั้ง 5 หลัง เป็นเงินกว่า 142,000 บาท ส่วนการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่า เป็นชื่อ “เฮียแต๋ม” เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
มีรายงานว่า จนท.จะออกหมายเรียกให้ “เฮียแต๋ม” และภรรยา มาให้ข้อมูลถึงการครอบครองบ้านทั้ง 5 หลังในเร็วๆ นี้
หลังจากนี้ ชุดสืบสวนจะตรวจสอบที่มาของเงินที่นำมาซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ ว่าเป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ และเหตุใดถึงต้องซื้อแล้วให้บุคคลอื่นมาพักอาศัยอยู่ทั้ง 5 หลัง
พร้อมทั้งจะยื่นขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีการรับของเกิน 3,000 บาท จากบุคคลอื่นหรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นต้องรับทรัพย์สินมูลค่าสูง ตามกฎหมายแล้วจะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาใน 30 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
ที่มา: เฟซบุ๊กเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เรวัช-ปรเมศวร์’ วิเคราะห์ ‘ตำรวจตัดตำรวจ’ เหตุบุกค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’
- ‘บิ๊กโจ๊ก’ มั่นใจเป็นการเมืองตำรวจ หวังดิสเครดิต
- ‘อัจฉริยะ’ นัด 27 ก.ย. นี้ เปิดหลักฐาน แฉ ‘ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก’
