General

กทม. กางมาตรการเตรียมพร้อมรับพายุ ‘ตาลิม’ 16-20 ก.ค.นี้

กทม.เตรียมพร้อมรับพายุ ตาลิม 16-20 กรกฎาคมนี้​ เร่งลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำและแก้มลิง พบเหตุหรือประสบภัยแจ้งได้ที่สายด่วน​ 199 และ​ Traffy Fondue

นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการ สำนักการระบายน้ำ​ เปิดเผยถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานคร​ในการรับมือกับพายุ ตาลิม ที่ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมากในวันที่​ 16-20 กรกฎาคมนี้​ โดยการแจ้งเตือนของอุตุนิยมวิทยา​

พายุ ตาลิม

สำหรับประเทศไทย จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร​ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรง จะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงนั้น

กรุงเทพมหานคร โดย สำนักการระบายน้ำ ​ได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมติดตามการพยากรณ์ ทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ และการแจ้งเตือนลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงใช้เรดาร์ตรวจอากาศของกรุงเทพมหานครติดตามกลุ่มฝนพร้อมแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ก่อนที่กลุ่มฝนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ กทม.

dm

ในขณะเดียวกัน ก็เร่งลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำและแก้มลิง ให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จัดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก พร้อมตรวจสอบเร่งระบายน้ำ ตามจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวังและบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ

พร้อมทั้งการจัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำเพื่อให้ไหลได้สะดวกรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเครื่องสูบน้ำตามสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำและบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม

dm

พร้อมกันนี้ ให้ประสานงานความร่วมมือ กับหน่วยงานที่กำลังดำเนินการโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และยังไม่แล้วเสร็จ โดยให้เร่งการแก้ไขปัญหา หรือเปิดทางระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร เช่น โครงการก่อสร้างคูระบายน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิตของกรมทางหลวง โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ของรฟม.

ส่วนพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ​ กับจังหวัดต่าง ๆ ได้มีการประชุมหารือร่วมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณเขตรอยต่อ ระหว่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบปัญหาความเดือดร้อนเพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้เปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ตลอดจนช่องทางแจ้งเหตุเพื่อขอรับความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

กทม3

  • เว็บไซต์​ http://dds.bangkok.go.th,​ www.prbangkok.com
  • Facebook:@BKK.BEST, กรุงเทพมหานคร, https://www.facebook.com/PR​Bangkok
  • ​Twitter:@BKK_BEST
  • รับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ที่ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.022485115
  • แจ้งปัญหาทางระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เปิดเผยถึงความพร้อมรับมือ​พายุ ตาลิม ว่า​ ปภ.ได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัย จัดเตรียมยานพาหนะ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิดหาบหาม และเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก(ไดโว่)

พร้อมให้การสนับสนุน และบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการระบายน้ำ สำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล และสำนักงานเขตพื้นที่ ในการลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง ในช่วงที่มีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที

กทม1 1

อีกทั้งขอให้ผู้อำนวยการเขต ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามมาตรา 37 ประกอบกับมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ดำเนินการสำรวจความเสียหายต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหาย และออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัยไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ เพื่อขอรับการสงเคราะห์ตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมขังสามารถขอความช่วยเหลือมาทางโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo