กรมขนส่งฯ แนะ 7 จุด “ตรวจเช็กรถยนต์ด้วยตนเอง” เดินทางช่วงหยุดยาว พร้อมหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคลปี 2566 ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2566 กรมการขนส่งทางบกคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีปริมาณรถบนท้องถนนหนาแน่น มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้
โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือความไม่สมบูรณ์ของรถยนต์ กระทรวงคมนาคมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์การเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง และการใช้รถในช่วงวันหยุดยาวให้มีความปลอดภัย
ตรวจเช็กรถยนต์ด้วยตนเอง 7 จุด
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกขอแนะนำให้เจ้าของรถตรวจเช็กรถให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทาง ดังนี้
- ตรวจเช็กระบบเบรค
- ตรวจระบบไฟฟ้ารถยนต์
- ตรวจเช็กระบบน้ำ
- ตรวจเช็กระบบกรองอากาศและลมยาง
- ตรวจเช็กระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
- ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง
- สังเกตเสียงเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสียและส่วนต่างๆ ว่ามีความดังผิดปกติหรือไม่ เพราะเสียงเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์ได้
เลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ
นายเสกสม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเช็กเครื่องยนต์ของรถก่อนเดินทางแล้ว กรมการขนส่งทางบกแนะนำผู้ขับขี่ให้เลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนี้ ขับรถโดยไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท จำพวกยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการขับรถลดน้อยลง
ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการกดรับโทรศัพท์หรือการพิมพ์ข้อความ หากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ อาทิ หูฟัง บลูทูธ หรือจอดรถคุยในบริเวณที่ปลอดภัย
ไม่ขับรถขณะง่วงนอน หากต้องขับรถระยะทางไกลหลายกิโลเมตรให้จอดพักรถบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ หรือพักหลับ 10 – 15 นาที
ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง และต้องเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่าการสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บและช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิต
ส่วนผู้ขับรถ รวมถึงผู้โดยสาร ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งและตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายกระเด็นออกไปนอกตัวรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทก และต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรมขนส่งฯ แนะใช้ ‘มอเตอร์ไซด์วิน’ ถูกกฎหมาย เรียกรถรับจ้างผ่าน ‘แอปที่ผ่านการรับรอง’ เพื่อความปลอดภัย
- กรมขนส่งฯ จับมือ คปภ. เชื่อมโยงข้อมูล ‘การทำพ.ร.บ.’ รองรับการต่อ ‘ภาษีรถยนต์ประจำปี’
- กรมขนส่งฯ แนะวิธี ‘เลือกรถเช่า’ เที่ยวสงกรานต์ 2566 อย่างปลอดภัย