เร่งพัฒนา ‘ครูผู้สอน’ หลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ‘ป้องกันเด็กการจมน้ำ’ ทั่วประเทศ หลังพบสถิติเด็กเสียชีวิตช่วงปิดเทอมสูง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนและเป็นช่วงที่เด็กปิดเทอม เด็กๆ อาจชวนกันไปเล่นน้ำตามลำพัง โดยข้อมูลพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี พ.ศ. 2561 – 2565) มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอม ถึง 953 ราย เฉลี่ยวันละ 2 ราย เดือนเมษายนจมน้ำมากที่สุด 65 ราย รองลงมาคือ เดือนมีนาคม 64 ราย และเดือนพฤษภาคม 63 ราย ส่วนใหญ่เกิดเหตุในช่วงเดือนเมษายน
พบว่าเด็กจมน้ำส่วนใหญ่ เกิดเหตุจากแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด โดยขาดทักษะการเอาชีวิตรอด และการช่วยเหลือคนตกน้ำ จมน้ำที่ไม่ถูกต้อง
จัดอบรมครูผู้สอนหลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อถ่ายทอดให้เด็ก
กรมควบคุมโรค จึงได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และได้ร่วมกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนหลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อสนับสนุนการสร้างทีมผู้ก่อการดี (MERIT MAKER) 4 ภาค ทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรนำไปใช้ขยายผล ถ่ายทอดให้กับประชาชนและเด็กในพื้นที่ เพื่อป้องกันการจมน้ำ
สำหรับรุ่นที่ 1 มอบหมายให้กองป้องกันการบาดเจ็บ ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 มีนาคม 2566 ณ จังหวัดขอนแก่น โดยได้รับความอนุเคราะห์การใช้สระว่ายน้ำจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมอบรมฯ จำนวน 160 คน จาก 16 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้มอบหมายให้แพทย์หญิงศิริรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ เป็นผู้แทนในการมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมฯ
สำหรับรุ่นที่ 2 กำหนดจัดขึ้น ณ จังหวัดสมุทรสงคราม รุ่นที่ 3 จัดขึ้น ณ จังหวัดพิษณุโลก และรุ่นที่ 4 จัดขึ้นณ จังหวัดสงขลา ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม
ทักษะการเอาชีวิตรอด–ช่วยเหลือคนจมน้ำ
นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ประกอบไปด้วย ความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ ทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำ ด้วยการลอยตัวเปล่าเหมือนแม่ชีลอยน้ำ และการลอยตัวโดยใช้อุปกรณ์ช่วยลอยน้ำ เช่น ขวดน้ำพลาสติกเปล่า ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า เป็นต้น
และวิธีการช่วยเหลือคนตกน้ำ จมน้ำที่ถูกต้อง โดยไม่กระโดดลงไปช่วย แต่ให้ใช้วิธีการ “ตะโกน โยน ยื่น” และเมื่อช่วยคนจมน้ำขึ้นมาแล้วห้ามจับอุ้มพาดบ่าแต่ให้ช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ (CPR) แล้วนำส่งโรงพยาบาลทุกราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดสถิติ 5 ปี ‘เด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม’ กว่า 9 ร้อยราย แนะผู้ปกครอง หนุนเด็กเรียนว่ายน้ำ เพื่อเอาชีวิตรอด
- ‘ระวังเด็กจมน้ำ’ เตือนผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด เผย 10 ปี คนไทยจมน้ำเสียชีวิต เกือบ 36,000 คน
- อย. เอาจริง กวาดล้าง ‘โฆษณาผิดกฎหมาย’ 2 ตลาดออนไลน์ชื่อดัง ลาซาด้า ช้อปปี้