General

ทำความรู้จัก ‘สารซีเซียม 137’ อันตรายแค่ไหน ป้องกันอย่างไร กรมการแพทย์ มีข้อแนะนำ

กรมการแพทย์แนะแนวทางป้องกันอันตรายจากสารซีเซียม 137 สูญหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ ปราจีนบุรี เตือนอันตรายจากรังสีบีตาและแกมมา พร้อมวิธีป้องกัน

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีรายงานข่าวพบสารซีเซียม 137 หายจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ จ.ปราจีนบุรี โดยส่วนที่สูญหายเป็นอุปกรณ์ตรวจจับเถ้าละอองลักษณะท่อกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ดังรูป

สารซีเซียม 137

ปกติซีเซียม-137 มีลักษณะเป็นของแข็ง คล้ายผงเกลือ สามารถฟุ้งกระจายได้เมื่อแตกออกจากที่ห่อหุ้มไว้ ถูกนำมาใช้งานต่างๆ เช่น ในอุปกรณ์วัดความชื้น วัดอัตราการไหลของเหลว วัดความหนาวัสดุ เป็นต้น โดยจะสลายตัวให้รังสีบีตาและแกมมา ที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสรังสีปริมาณมากแบบทั้งร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติ จากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน

ทั้งนี้ สามารถแบ่งออกได้ 3 กลุ่มอาการ คือ ระบบผลิตเลือด ระบบทางเดินอาหาร และ ระบบประสาทกลาง หรือกรณีที่ได้รับรังสีบางส่วนร่างกายหรือปริมาณไม่สูง ทำให้เกิดอาการด้านผิวหนังจากรังสี โดยมีปัจจัยที่สำคัญคือปริมาณรังสีที่ได้รับ ระยะเวลาสัมผัส ระยะห่างจากแหล่งกำเนิดรังสี และ มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันรังสีหรือไม่

ซีเซียม 1

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง การได้รับปริมาณรังสีที่แผ่ออกมาจากซีเซียม-137 เป็นระยะเวลาสั้น ๆ จะไม่ส่งผลให้เกิดอันตรายที่เห็นผลชัดเจนในทันทีแต่อย่างใด แต่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเกิดโรคมะเร็งได้

หากมีการชำแหละส่วนกล่องโลหะอาจทำให้รังสีมีการการสัมผัสและการปนเปื้อนรังสีมากขึ้นได้ เมื่อสงสัยว่าสัมผัสปนเปื้อนรังสี การลดการปนเปื้อน ซึ่งทำได้ทั้งแบบแห้ง เช่น การปัดออก เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือแบบเปียก โดบการล้างด้วยน้ำ เพื่อเป็นปกป้องผู้สัมผัส บุคลกรทางการแพทย์และสถานที่

ซีเซียม รวม

นายแพทย์กิติพงษ์ พนมยงค์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรม สาขาเวชกรรมทั่วไป หัวหน้ากลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กล่าวว่า หากผู้ใดมีอาการสงสัยจากการสัมผัสรังสี เช่น ผื่นแดงตามผิวหนัง ผมร่วง แผลเปื่อย คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย รวมทั้งการเข้าใกล้หรือสัมผัสวัตถุต้องสงสัย ให้รีบประสาน อสม.หรือ พบแพทย์ที่สถานพยาบาล

พร้อมทั้งแจ้งความเสี่ยงสัมผัสต่อเจ้าหน้าที่ โทร.สสจ.ปราจีนบุรี 037211626 ต่อ 102 หรือ ติดต่อสถาบันอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์ รพ.นพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ โทร.025174333

ผู้ใดที่พบเห็นวัตถุต้องสงสัย หรือวัสดุที่มีลักษณะดังกล่าวข้างต้นนี้ โปรดหลีกเลี่ยงการสัมผัสและเข้าไปอยู่ใกล้ชิดและรีบแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่สายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี โทร. 1296

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo