“ชูวิทย์” ประกาศเดดไลน์บ่าย 3 วันนี้ ผบ.ตร.ต้องให้ทีมพนักงานสอบสวนนำรูปตำรวจชุดไถเงินดาราสาวไต้หวัน มาให้ชายชาวสิงคโปร์ชี้ตัว
ที่กระทรวงยุติธรรม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้กล่าวถึงประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด่าน สน.ห้วยขวาง รีดไถนักท่องเที่ยวดาราสาวไต้หวันจำนวน 27,000 บาท โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า ผมคันไม้คันมือเพราะตอนนี้ค่อนข้างพบความจริงแล้ว การจ่ายเงินดังกล่าว พยานได้ถูกขู่เข็ญ ไม่ใช่การให้สินบน ซึ่งพยานรายนี้ไม่เคยคิดว่าจะพบกับเหตุการณ์แบบนี้ เขาไม่ได้คิดอยากจะยุ่งเกี่ยว นอกจากนี้ พยานยังบอกด้วยว่า เขากลัวโจรนะ แต่พอมาเมืองไทยเขากลัวตำรวจ “ชาวชาวสิงคโปร์ได้ถามเพื่อนๆว่านายชูวิทย์เป็นใคร ซึ่งเขาไว้ใจตนแต่เขาไม่ไว้ใจตำรวจไทย นี่คือใจความสำคัญ แต่ตำรวจไทยพยายามจะพูดนำเรื่องการแจ้งข้อหา ม.157 แก่เจ้าพนักงานเรื่องไม่แจ้งข้อหาความผิดนักท่องเที่ยวมีบุหรี่ไฟฟ้า
ตนอยากถามว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้านั้น คุณก็รู้ว่าตำรวจก็ใช้ และมีขายทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งเขาเป็นแขก เขาจะรู้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนอยากจะขับรถขนศพคันนี้ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลจริงๆ”นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้เวลา 14.00 น.จะมีการเปิดแถลงข่าวโดยตนเองจะเป็นผู้ที่สัมภาษณ์ชายชาวสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นักท่องเที่ยวดาราสาวไต้หวัน ถูกตำรวจสน.ห้วยขวาง ที่ตั้งด่านเรียกเงิน 27,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว และชายคนดังกล่าวก็จะเดินทางกลับประเทศเขาภายในวันนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมาพบพยานรายนี้ ตนจะไม่ให้พยานไปให้การที่โรงพักเด็ดขาด โดยตนให้เวลาถึง 15.00 น. ที่ โรงแรมเดอะเดวิส ให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบปากคำพยาน และให้นำรูปถ่ายของตำรวจทุกคนที่ สน. ห้วยขวาง มาด้วยมาให้ชายชาวสิงคโปร์พยานของตนชี้ตัวด้วย
“เขายืนยันว่าจำหน้าได้ทุกคนอย่างแม่นยำแม้ว่าจะมีการใส่หน้ากากอนามัยก็ตาม และอย่าบอกว่าไม่มีรูปนายตำรวจเด็ดขาด เพราะว่าคนที่รับ ได้ออกเวรไปแล้ว แต่เป็นตำรวจและยังอยู่ แล้วก็มีการไปปรึกษากับตำรวจใส่เครื่องแบบสองคนขู่เข็ญพยาน อีกทั้งยังมีการไปคุยกับตำรวจยศใหญ่กว่าว่าราคานี้ตกลงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าชาวสิงคโปร์รายนี้เป็นคนให้เงิน และถูกขู่เข็ญอย่างไรก็ให้เขาพูดให้หมดว่าถูกรีดอย่างไร เพราะถ้าไม่ถูกรีดไถ จะยืนอยู่ตรงนั้นเกือบชั่วโมงได้อย่างไร” นายชูวิทย์ กล่าว นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังระบุถึงชายที่ขับคาร์แกร็บว่า ตนรู้นะว่าทำไมชายคนดังกล่าวถึงได้พยายามที่จะให้ข้อมูลกับสาธารณะชนในทางที่ไม่ดีต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวของดาราสาวไต้หวัน บอกว่าเมาอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจและจะไม่เอาเรื่องคนขับรถแกร็บ ส่วนตำรวจก็พูดถึงเรื่องนักท่องเที่ยวผิดข้อหามีบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตนก็เห็นว่าตำรวจก็สูบกันเกร่อและมีขายให้เห็นมากมายในตลาดบ้านเรา แต่ตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้าได้หายไปจากท้องตลาดแต่เชื่อว่าอีกภายใน 7 วันก็กลับมาขายกันเหมือนเดิม
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าเป็นความพยายามที่จะกลบประเด็นที่ตำรวจรีดไถเงินจำนวน27,000 บาทต่างหาก อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ ได้ย้ำว่าฝากบอกด้วยว่าเงินของกลาง27,000 บาทที่รีดกันไป ช่วยกรุณาคืนพยานคนนี้ด้วย เพราะเขาไม่ใช่คนรวย เขามาเที่ยวประเทศไทยเพราะรักประเทศไทยเท่านั้น
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กล่าวฝากไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้มันเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย เพราะว่าเราเพิ่งเปิดประเทศ ตนอยากบอกพลเอกประยุทธ์ ว่าไม่ต้องไปผูกผ้าขาวม้า แต่ขอให้มาจัดการเรื่องนี้แทนหากท่านเป็นผู้นำและเป็นผู้ที่นำองค์กรตำรวจ เพราะวันนี้มันเละ เพราะว่าท่านจะต้องกล้าตัดสินใจใช้คนให้ถูกงานไม่ใช่มาพูดว่าแจ้งข้อกล่าวหา ม.157 จัดการคนที่ละเลย ตนมองว่าท่านกำลังเอาเรื่องเล็กมาบังเรื่องใหญ่เพราะว่าสังคมอยากรู้เรื่องการรีดไถ มากกว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไปใครจะกล้ามาเที่ยวประเทศไทย วันนี้ประเทศไทยต้องไม่มีคอรัปชั่น และขอให้นายกรัฐมนตรีลงมาจัดการเรื่องนี้ บ้านเมืองจะได้ดีขึ้น ประเทศไทยจะได้เหมือนประเทศสิงคโปร์
ในตอนท้าย นายชูวิทย์ ระบุเพิ่มเติมว่าจะเปิดประเด็นใหม่ ตนจะเปิดเผยขบวนการการรีดไถของด่านตรวจว่าจะต้องจ่ายเท่าไร ยอดสูงเท่าไร แล้วส่งเงินเหล่านั้นไปให้ใคร สืบเนื่องมาจากกรณีดังกล่าวว่า การที่ตำรวจออกมาตั้งด่านขณะนี้มากมาย เพราะขณะนี้พอบ่อนปิด ตำรวจไม่มีรายได้ จึงปรากฏเกิด“ค่าส่วยตั้งด่าน“ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องจ่ายให้กับนาย ซึ่งเรื่องนี้ตนจะได้มีการเปิดโปงรายละเอียดต่อไป ตนทั้งสงสารประเทศไทยและเด็กเยาวชน ตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ต้องไปหาเงินส่งนายใหญ่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผบ.ตร. ‘ขอโทษ’ ประชาชน ปมตำรวจรีดเงินดาราไต้หวัน
- เด้ง 7 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ปมรีดเงินดาราสาวไต้หวัน
- เผยแล้ว ตร. เรียกเงิน 2.7 หมื่นบาท แก๊งดาราไต้หวัน จ่ายเสร็จแบ่งกันตรงนั้น
