General

‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ จี้ตรวจต้นตอ หลังฝุ่น PM2.5 รุนแรงขึ้น ขอความร่วมมือ Work from Home

ผู้ว่าฯชัชชาติ จี้กทม.ตรวจต้นตอฝุ่น PM2.5 ต่อเนื่อง กำชับปรับการพยากรณ์ให้แม่นยำขึ้น พร้อมขอความร่วมมือบริษัท Work from Home คาดหลัง 5 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ดีขึ้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ว่า สถานการณ์ PM2.5 ในช่วงนี้ (1-4 ก.พ. 2566) มีฝุ่นรุนแรงมากขึ้น

ฝุ่น PM2.5

ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิด รวมถึงมีการเผาชีวมวล และหลังจากวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 สถานการณ์จะบรรเทาลงถึงดีขึ้น เนื่องจากลมอาจมีการเปลี่ยนทิศ

อย่างไรก็ตาม ทางกทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีการตรวจแหล่งกำเนิดมลพิษ (ต้นตอฝุ่น) 2 ครั้ง/เดือน (ข้อมูล ณ 30 ม.ค. 2566) ดังนี้

  • สถานประกอบการ/โรงงาน 1,044 แห่ง ตรวจสอบจำนวน 4,028 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 7 แห่ง
  • ตรวจแพลนท์ปูน 133 แห่ง จำนวน 522 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 16 แห่ง
  • ตรวจสถานที่ก่อสร้าง โดย สำนักการโยธา 399 แห่ง จำนวน 392 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 1 แห่ง
  • ตรวจสถานที่ก่อสร้างโดยสำนักงานเขต 274 แห่ง 773 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 26 แห่ง
  • ตรวจถมดินท่าทราย 9 แห่ง รวม 67 ครั้ง
  • ตรวจควันดำในสถานที่ต้นทาง 1,288 คัน พบเกินค่ามาตรฐานและสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 10 คัน
  • ตรวจควันดำรถยนต์ 58,871 คัน สั่งห้ามใช้ 1,245 คัน
  • ตรวจรถโดยสารประจำทาง 9,269 คัน สั่งห้ามใช้ 43 คัน
  • ตรวจรถบรรทุก 31,072 คัน สั่งห้ามใช้ 135 คัน

ฝุ่น 2

สำหรับสิ่งที่กำชับให้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น คือ การพยากรณ์ฝุ่นควรมีความแม่นยำมากขึ้น เพราะส่งผลต่อการเตือนภัยประชาชน และการประสานงานขอความร่วมมือจากพื้นที่รอบนอก เรื่องการเผาชีวมวล

ด้านแนวทางการรับมือกับฝุ่นในช่วง 2-3 วันนี้ ได้ขอความร่วมมือในการทำงานแบบ Work from Home เพื่อลดการเดินทาง โดยประกาศของความร่วมมือบนช่องทางการสื่อสารของกทม. และมีเครือข่ายติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อขอความร่วมมือด้วย

ล่าสุด มีบริษัทที่ให้ความร่วมมือทำงานแบบ Work from Home จำนวน 33 บริษัท อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องประกาศปิดโรงเรียน

ส่วนการป้องกันผลกระทบจากฝุ่น ทาง สำนักอนามัย ได้มีการแจกหน้ากากอนามัยแก่กลุ่มเปราะบางไปแล้วกว่าล้านชิ้น รวมถึงสำนักการแพทย์ได้มีการเปิดคลินิกฝุ่น (คลินิกมลพิษทางอากาศ) ในโรงพยาบาล 5 แห่ง (โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลสิรินธร) และมีหน่วยงานลงตรวจต้นตอฝุ่นอยู่ตลอด

กทม.1 3

สุดท้ายแล้ว การลดต้นตอฝุ่นบางเรื่อง เป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น รถยนต์ในกทม. หรือขนส่งมวลชน หากจะเปลี่ยนเป็นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) กทม.อาจมีส่วนเพียงการสนับสนุนในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจไม่สามารถทำได้ในระยะสั้น แต่เป็นการวางแผนในระยะยาว

ทั้งนี้ ในด้านการวิจัย เราจะต้องรู้ให้ชัดว่าต้นตอของฝุ่นนั้น มีองค์ประกอบจากอะไรเป็นหลัก เพื่อให้แก้ไขได้อย่างตรงจุด ในส่วนนี้นักสืบฝุ่นได้พยายามวิเคราะห์หาคำตอบ และมีการหารือกับ กรมควบคุมมลพิษ อยู่อย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo