แรงงานเตือน! ‘นายหน้าเถื่อน’ ระบาดเต็มโซเชียล หลอกคนไทย ไปทำงานผิดกฎหมายที่ UAE
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับรายงานจากฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าขณะนี้ มีสายนายหน้าเถื่อนหลอกลวงคนหางานไปทำงานพนันออนไลน์ และงานนวดสปาใน UAE โดยเน้นการชักชวนผ่านเพจ Facebook และเอเจนซี่เถื่อน หรือคนรู้จัก
หลอกไปทำงานโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว แนะตรวจสอบให้ดี
โดยแนะนำให้ใช้วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Tourist Visa or Visit Visa) เดินทางเข้าประเทศ เพื่อลักลอบทำงานเว็บพนันออนไลน์ ร้านนวดสปา ร้านอาหาร พร้อมแอบอ้างชื่อบริษัทหรือกิจการที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มารับสมัครงาน
บางแห่งเอเจนซี่ออกเงินค่าใช้จ่ายให้ก่อน สุดท้ายเดินทางถึงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หากเป็นงานเว็บพนันออนไลน์ จะถูกยึดหนังสือเดินทาง ให้ทำงานเกินระยะเวลาที่ตกลง เมื่อขอยกเลิกไม่ทำงานจะถูกเรียกค่ายกเลิกวีซ่าและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ด้านงานนวด เมื่อไปถึงพบเป็นงานนวดแฝง นำไปสู่การประเวณี บางรายให้เซ็นสัญญารับสภาพหนี้ หากทำงานไม่ได้หรือไม่มีรายได้ตามเป้า จะถูกส่งขายเป็นทอด ๆ ทำให้หนี้ยิ่งเพิ่มขึ้น
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานอย่างยิ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้มอบหมายกรมการจัดหางานตรวจสอบคนหางานที่มีพฤติการณ์ลักลอบเดินทางไปทำงานอย่างเข้มงวด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อป้องกันการหลอกคนไปทำงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
และขอย้ำเตือนให้คนหางานต่างประเทศศึกษา ตรวจสอบบริษัทที่จะเดินทางไปทำงานให้รอบคอบ และศึกษาวิธีการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต้องเดินทางผ่านด่านตรวจคนหางาน กรมการจัดหางานเท่านั้น
หากมีผู้ชักชวนไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงาน ให้สันนิษฐานว่าอาจถูกหลอกลวง หรือตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
ศึกษาข้อมูล ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมอบหมายกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน เฝ้าระวังการหลอกลวงไปทำงานผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและช่องทางต่างๆ
หากพบผู้กระทำผิด จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ชักชวนและหลอกลวงคนหางาน ตามพรบ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งการโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิด ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยปีงบประมาณ 2566 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 23 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 79 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 7,979,270 บาท
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th/ipd
และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2245 6763 และ 0 2245 6708 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2และ สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ดีอีเอส ขอศาลคุ้มครองชั่วคราว ‘ปิดกองสลากพลัส’ จนกว่าจะมีคำสั่ง ‘ปิดถาวร’
- ข้าราชการ-ลูกจ้าง เกษียณ 1 ต.ค. 66 ยื่นขอรับ ‘บำเหน็จ-บำนาญ’ ล่วงหน้า ผ่าน 4 ช่องทาง เริ่มพรุ่งนี้
- พุ่งปรี๊ด! ‘PM2.5’ วันนี้ เกินมาตรฐาน 32 จังหวัด กทม. และ 17 จังหวัดภาคเหนือ หนักสุด