สธ.จัดทำคำของบประมาณรายจ่าย 4.37 แสนล้านรายจ่าย ประจำปี 2567 วงเงิน 4.37 แสนล้านบาท ใช้พัฒนาระบบสาธารณสุข สปสช.ขอเพิ่มงบบัตรทองคนละ 54 บาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมนำเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม และผู้บริหารหน่วยงาน/องค์กรในกำกับของกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุม
นายอนุทินกล่าวว่า การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ภาพรวมกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำว่า ขอให้ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ใช้เม็ดเงินภาษีให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลเกิดความคุ้มค่า ได้ประโยชน์สูงสุด และมุ่งเน้นตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาล รวมถึงแนวทางเศรษฐกิจสุขภาพ Health for Wealth ที่จะเป็นแรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ มีเป้าหมายหลัก คือ ปรับระบบบริการสุขภาพโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ลดความเหลื่อมล้ำ เข้าถึงบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และลดความแออัด โดยจะขับเคลื่อนงานผ่านประเด็นหลัก 6 เรื่อง คือ
- เศรษฐกิจสุขภาพและนวัตกรรมการแพทย์
- การปรับตัวสู่สังคมสูงอายุคุณภาพ
- การพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการจ้างงานรูปแบบใหม่
- การเรียนรู้จากโควิด 19 เพื่อพลิกโฉมสาธารณสุข ยืดหยุ่นต่อวิกฤตและภัยอุบัติใหม่
- งานบริการระบบปฐมภูมิ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค
- Digital Health เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ระบบการแพทย์ทางไกล
นายอนุทินกล่าวต่อว่า คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 มีวงเงินคำขอรวมทั้งสิ้น 437,131.4 ล้านบาท แบ่งเป็น คำขอของหน่วยงานในสังกัด 10 กรม 219,652 ล้านบาท กองทุนในกำกับ 3 กองทุน 214,362 ล้านบาท และองค์การมหาชน 6 หน่วยงาน 3,117 ล้านบาท จำแนกเป็นหมวดงบประมาณ ดังนี้
- งบด้านบุคลากร 124,480 ล้านบาท
- งบดำเนินการ 30,824 ล้านบาท
- งบลงทุน 30,160 ล้านบาท
- งบอุดหนุน 32,708 ล้านบาท
- งบรายจ่ายอื่นๆ 1,480 ล้านบาท
สำหรับโครงการสำคัญที่จะดำเนินการ เช่น ผู้สูงอายุ วงเงิน 155.58 ล้านบาท, ยาเสพติด วงเงิน 3,341.80 ล้านบาท, สุขภาพปฐมภูมิ/อสม. วงเงิน 27,606.89 ล้านบาท, Digital Health วงเงิน 1,248.80 ล้านบาท, Medical Hub วงเงิน 162.99 ล้านบาท
ในส่วนของงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เสนอขอเพิ่มขึ้นจากอัตราเหมาจ่ายรายหัวปี 2566 งบบัตรทอง จำนวน 3,385.98 บาท ต่อหัวประชากร เพิ่มขึ้นในปี 2567 เป็นจำนวน 3,440.51 บาทต่อหัวประชากร เพื่อให้หน่วยบริการได้นำมาดูแลสุขภาพของประชาชนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า คำของบประมาณในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวม 154,572.2 ล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากงบรายจ่ายด้านบุคลากร จะเป็นงบประมาณที่ใช้เพื่อการดูแลประชาชน โดยเฉพาะงบลงทุน ที่นำมาใช้พัฒนาสถานพยาบาลและระบบบริการสุขภาพต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีงบลงทุนที่นำมาใช้ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ทั้งการจัดซื้อครุภัณฑ์ ด้านการศึกษา การแพทย์ ยานพาหนะ และสิ่งก่อสร้าง และงบลงทุนด้านครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนบริการทางการแพทย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระวัง!! ภาวะ POTS จากโควิด-19 เริ่มพบมากขึ้น แม้โควิดใกล้ปิดเกม เช็กอาการ ตามนี้
- สธ. เปิดปมปัญหา ถ่ายโอน รพ.สต. เร่งหาแนวทางแก้ไข ยันไม่ชะลอ-ยกเลิก
- ข่าวดีโควิดไทย ผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิต ลดลงต่อเนื่อง เปิดรับต่างชาติไม่กระทบ