General

สปสช. แก้ปัญหา ‘ท้องไม่พร้อม’ ป้องกันโรคติดต่อ ดีเดย์แจกถุงยางอนามัย 1 ก.พ.นี้

สปสช. เพิ่มทางเลือก แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อ ดีเดย์แจกถุงยางอนามัย 1 กุมภาพันธ์นี้ 94.5 ล้านชิ้น อ่านเงื่อนไขที่นี่

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ทีไม่พึงประสงค์ และใช้สำหรับป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิผล อาทิ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี หนองใน หนองในเทียม และเอดส์ เป็นต้น

ท้องไม่พร้อม

ที่ผ่านมา สปสช.ได้บรรจุบริการถุงยางอนามัย เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท มาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับในปี 2565 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยอย่างทั่วถึงและเพียงพอ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้ปรับวิธีบริหารจัดการโดยแยกงบประมาณจัดซื้อถุงยางอนามัยสำหรับบริการวางแผนครอบครัวออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว

พร้อมกันนี้ ให้รวมจัดซื้อถุงยางอนามัยสำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเสี่ยงภายใต้งบประมาณดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อกระจายให้แก่หน่วยบริการทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ในปี 2566 สปสช. ยังคงเดินหน้าสนับสนุนบริการถุงยางอนามัยต่อเนื่อง เบื้องต้นได้เตรียมถุงยางอนามัยจำนวน 94,566,600 ชิ้น และสารหล่อลื่นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ ซึ่งจะได้รับถุงยางอนามัยครั้งละ 10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

20210505143718808
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

ผู้สนใจสามารถเข้ารับบริการถุงยางอนามัยได้ที่ หน่วยบริการประจำ และหน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรม ด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น

วิธีการคือ การลงทะเบียนผ่านแอบพลิเคชัน เป๋าตัง บนสมาร์ทโฟน และในกรณีผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนรับบริการได้ที่หน่วยบริการโดยตรง

ในส่วนของหน่วยบริการที่มีศักยภาพด้านเอชไอวี สปสช.ยังคงสนับสนุนการให้บริการถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และบริการด้านเอชไอวี ตามสิทธิประโยชน์เช่นเดิม

นอกจากนี้ สปสช. ได้ร่วมกับหน่วยบริการ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการถุงยางอนามัยผ่านตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ ซึ่งจะนำไปติดตั้งนอกหน่วยบริการหรือในชุมชน เพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกไปรับบริการถุงยางอนามัยที่หน่วยบริการ

ในเบื้องต้นจะนำร่องติดตั้ง 3 จุดบริการในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำหนดดีเดย์เริ่มให้บริการวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ซึ่งตรงกับ วันวาเลนไทน์ ก่อนขยายไปทั่วประเทศต่อไป

111

สำหรับขนาดถุงยางอนามัยที่จัดให้บริการภายใต้กองทุนบัตรทองนี้จะมี 4 ขนาดด้วยกัน คือ

1. ถุงยางอนามัย ขนาด 49 มม.

2. ถุงยางอนามัย ขนาด 52 มม.

3. ถุงยางอนามัย ขนาด 54 มม.

4. ถุงยางอนามัย ขนาด 56 มม.

ทั้งนี้ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและสามารถเลือกขนาดถุงยางอนามัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน

ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ขณะเดียวกันยังช่วยลดปัญหาภาวะท้องไม่พร้อม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่มีความพร้อม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo