“ชูวิทย์” เผยยึดทรัพย์ “ตู้ห่าว” หมื่นล้าน “จีนเทา” ยังไม่หมดจ่อเข้าไทยอีก ใหญ่กว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้โพสต์ว่า ยึดทรัพย์ “ตู้ห่าว” หมื่นล้าน การทลาย “จินหลิง” ที่มีนายตู้ห่าวเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ยึดอายัดทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 5,345 ล้านบาทและยังมีทรัพย์สินให้ยึดต่ออีก 3,000 ล้านบาท รวมประมาณ 8,345 ล้านบาท หากเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงไว้ว่า
“ผู้ชี้เบาะแสอย่างนายชูวิทย์ จะได้เงินรางวัลนำจับ 5 เปอร์เซ็นต์ จากยอดทั้งหมด”
ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงแถลงไขให้ประชาชนทราบว่าหากผมได้รับรางวัล 5 เปอร์เซ็นต์จริง จากยอด 8,345 ล้านบาท จะตกอยู่ประมาณ 417 ล้านบาท
ขอยืนยันไว้เป็น “สัญญาประชาคม” ตรงนี้ว่า “จะขอนำเงินจำนวนนี้ทั้งหมด บริจาคเป็นกุศลผลบุญให้แก่คนไทยทั่วไป ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย โดยไม่ขอนำเงินใส่กระเป๋าใช้ส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว”
ผมมีมากพอแล้ว ลูกหลานก็มีให้หมดแล้ว ผมเคยทำอะไรไว้ ตอนนี้เป็น “องคุลีมาล” กลับใจ ขอทำงานคืนให้สังคม ตอบแทนโดยไม่หวังผลใดๆ ตามที่เคยบอกไว้กับสังคมสาธารณชน สิ่งที่ทำไป ต้องการให้ประชาชนได้เรียนรู้ เข้าใจถึงการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นตัวอย่างให้ได้จดจำว่า
ไม่ใช่แค่แฉเปิดโปงเท่านั้น แต่การจะทำให้ภาครัฐหันมาเอาใจใส่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต้องใช้แรงกดดันของสังคม ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ แต่ผมถือว่าหน้าที่นี้เป็นของพลเมืองทุกคนที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ และกระบวนการเกี่ยวพันไปถึงแหล่งผลิตที่อยู่นอกประเทศไทยเราไม่มีทางหยุดได้ ยกเว้นจะจัดการที่ “ต้นตอ”
นายตู้ห่าว และเครือข่าย เป็นคนต่างชาติที่อาศัยผืนแผ่นดินไทยทำมาหากิน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดการตามกฎหมายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ขั้นตอนสอบสวนของตำรวจและอัยการจบสิ้นลง จากนี้อัยการสูงสุดจะเป็นผู้ลงนามสั่งฟ้องตามกระบวนการศาลยุติธรรมต่อไป
หวังว่าประชาชนจะประสบชัยชนะร่วมกันอย่างน้อยมันเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า “คนทำผิดร้อยครั้ง แม้หลุดรอดไปได้ทุกครั้ง แต่เมื่อพลาดเพียงครั้งเดียว เราสามารถล้มกระดานได้ทั้งหมด”
ขณะที่ ก่อนหน้าเมื่อเวลา 22.00 น.ของ วันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวภาพและข้อความว่า ขบวนการเขมือบไทยทุนจีนจาก “สีหนุวิลล์”
วันนี้ “ตู้ห่าว” จะถึงจุดจบหรือไม่ กว่าจะรู้ผล สำนวน 67 แฟ้ม 26,892 แผ่น พยาน 444 ปาก คาดว่าอีก 2 ปี ศาลชั้นต้นถึงจะตัดสินและกว่าการต่อสู้ทางกฎหมายจะถึงศาลฎีกา คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี เนื่องด้วยพยานหลักฐานมากมาย และแทคติกการถ่วงเวลาให้พยานกลับคำ หลงลืม ขอให้การใหม่ ประชาชนต้องรอจนกว่าศาลฎีกาจะตัดสินว่าใครชนะ
ข้อมูล “จีนเทา” ยังไม่หมด
นายเหมา หยาเซียง (ตามรูป) คือ ตัวการสำคัญ ที่ขณะนี้ถูกจับกุมตัว ขังอยู่ที่ ตม. โดยนายเหมาเป็นระดับหัวหน้า 1 ใน 6 เป็นผู้จัดการ “หยง หยวน กรุ๊ป” ที่ครอบคลุมกิจการคาสิโน คอลเซ็นเตอร์กว่า 70% ที่สีหนุวิลล์
โดยนายทุนใหญ่คือคนจีน อายุ 75 ปี ชื่อ “หยง” เป็นเจ้าของ กิจการต่างๆ ของนายตู้ห่าว ได้รับเงินทุนมาจาก นายหยง เข้ามาทางนายเหมา ทำให้ได้ก่อร่างสร้างตัว ทั้งบ่อนการพนัน 4 แห่ง ในย่านยานาวา (จินหลิง), ราษฏร์บูรณะ, เทพารักษ์ ซอยหมู่บ้านภัทรนิเวศน์ หลังโรงแรมเดอะ เอ็ม แกรนด์, ร้านอาหาร “ต้นตำหรับไทย” แยกอรุณอัมรินทร์ ปิ่นเกล้า และยังวางแผนจะทำพนันออนไลน์ ที่ขณะนี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มคนไทย
ที่ใหญ่สุดเป็นตำรวจ ชื่อเล่นย่อ “ซ” คนรู้จักกันทั้งเมืองลำดับสอง นาย “ทท”และลำดับสาม “ล” ลูกนายบ่อนแถวปิ่นเกล้า ที่ขณะนี้เส้นเงินพันไปถึงผับใหญ่ย่านทองหล่อ และไปถึงเจ้าใหญ่ล็อตเตอรี่ ที่ผมเล่าให้ฟังข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าเงินทุนนายตู้ห่าวมาจากกัมพูชา “สีหนุวิลล์” เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และการพนันออนไลน์ในเร็วๆ นี้ จะถูก “จีนเทา” เข้ามาครอบครองตลาด ด้วยเทคโนโลยี และเงินทุนที่แข็งแกร่งกว่า รวมถึงแอพเงินกู้จีน ไลฟ์สดชวนพนัน ที่ล้วนมีคนจีนอยู่เบื้องหลัง หากในเร็ววันนี้ไม่จัดการถอนรากถอนโคนจีนเทาจะกลับมาใหม่ ใหญ่กว่านายตู้ห่าวแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชูวิทย์’ หอบหลักฐาน ‘ทุนจีนสีเทา’ ให้ ‘รังสิมันต์ โรม’ พูดในสภา
- มาแล้ว! เพจ สรยุทธ เผย 3 คำใบ้จาก ทนายตั้ม อดีตรองนายกฯ เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
- พยากรณ์อากาศวันนี้ ‘อีสาน’ อุณหภูมิลดลง 3-5 องศา