General

สธ. แจง ชะลองบส่งเสริมป้องกัน เฉพาะกลุ่มนอกสิทธิบัตรทอง ตามมติบอร์ด สปสช.

สธ.แจง ชะลอจัดสรรงบส่งเสริมป้องกันโรคให้หน่วยบริการ เฉพาะกลุ่มนอกสิทธิบัตรทอง ตามมติบอร์ด สปสช. แต่ประชาชนทุกสิทธิยังได้รับบริการตามปกติ

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการกล่าวอ้างถึงการชะลอลงนาม หลักเกณฑ์จัดสรรงบประมาณ กองทุนหลักประกันสุขภาพ งบส่งเสริมป้องกันโรค (PP) รวม 5,146.05 ล้านบาท ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาเอชไอวีลำบาก

นอกสิทธิบัตรทอง

นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ถูกต้อง สาเหตุที่ยังไม่ได้มีการลงนามจัดสรรเป็นเพราะงบ PP เฉพาะในส่วนที่นำไปให้บริการประชาชน กลุ่มที่อยู่นอกเหนือจากสิทธิบัตรทอง อาจจะเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ในช่วงแรกของปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและหน่วยบริการ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงมีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เห็นชอบประกาศหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารกองทุนฯ ปี 2566 จัดสรรงบผู้ป่วยนอก (OP) ผู้ป่วยใน (IP) และงบสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) เฉพาะสิทธิบัตรทอง ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้องตามกฎหมายออกมาก่อน

ดังนั้น การบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค ในส่วนของประชาชนสิทธิบัตรทอง จึงดำเนินการได้ตามปกติ ไม่มีข้อติดขัดใด ๆ

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์
นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์

สำหรับงบ PP นอกสิทธิบัตรทอง 5,146.05 ล้านบาท ต้องขอให้รอความชัดเจนในการตีความทางกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะรัฐมนตรีก่อน โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการ 7×7 ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ย้ำให้ทุกหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจัดบริการด้านสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ครอบคลุมประชาชนทุกคนทุกสิทธิตามปกติไปก่อน

ส่วนหน่วยบริการนอกสังกัด ทาง สปสช.ได้ประสานให้ดำเนินการตามปกติ เพื่อไม่ให้มีช่องว่าง หรือส่งผลกระทบในบริการกับประชาชนเช่นเดียวกัน โดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรีตามที่เคยได้ดำเนินการเรื่องนี้มา 20 ปี เป็นข้อสนับสนุน

ขอยืนยันว่า ประชาชนหรือผู้รับบริการ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิหลักประกันสุขภาพฯ ซึ่งไม่มีปัญหาใดในเรื่องนี้ รวมถึงสิทธิข้าราชการ และสิทธิประกันสังคม ที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนทางกฎหมาย ยังได้รับการดูแลด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคตามมติบอร์ด สปสช. และมติคณะกรรมการ 7×7

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.จะร่วมกันดำเนินการในรายละเอียด และติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเข้ารับบริการของประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo