General

‘กองทัพเรือ’ ยืนยันยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากกรณี ‘เรือหลวงสุโขทัย’ จมทะเล!

“กองทัพเรือ” ยืนยันยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากกรณี “เรือหลวงสุโขทัย” จมทะเล ชี้ผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นลูกเรือจากเรือสินค้าที่อัปปาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือ ได้ทวีตข้อความชี้แจง หลังมีกระแสข่าวว่ามีผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยจมทะเล เสียชีวิตแล้ว 1 นาย โดยระบุว่า #กองทัพเรือ ชี้แจงกรณี #เรือหลวงสุโขทัย อย่าหลงเชื่อข่าวลือ กองทัพเรือ ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่กำลังพลจากเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวานเช่นกัน

เรือหลวงสุโขทัย

“กองทัพเรือ” ชี้แจง

พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน

อย่างไรก็ตาม ผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง

กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง

เรือหลวงสุโขทัย

เร่งดำเนินการค้นหา

ต่อมา เรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล

จากนั้น เวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนีเรือต่าง ๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป

เรือหลวงสุโขทัย

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป

ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดย กองเรือยุทธการ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038 182 435 และ 084 002 3554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจำนวน 75 นาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK