General

สธ.หารือ สปสช. แยกจัดสรรงบบัตรทองดูแลผู้ป่วยก่อน ระหว่างรอความชัดเจนงบ 2 แสนล้าน

สธ. หารือ สปสช. แยกจัดสรรงบบัตรทองส่วนของการบริการผู้ป่วยก่อน เพื่อไม่ให้กระทบประชาชน ระหว่างสุญญากาศรอลงนามหลักเกณฑ์จัดสรรงบบัตรทอง ปี 2566 วงเงิน 2 แสนล้านบาท

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อห่วงใยกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ยังไม่ลงนามในหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2566 ทำให้ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรืองบบัตรทองลงไปยังหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลต่างๆ

งบบัตรทอง

ทั้งนี้ สาเหตุจากการนำงบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) ไปใช้ให้บริการนอกเหนือจากสิทธิบัตรทอง คือสิทธิสวัสดิการข้าราชการและประกันสังคม อาจไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจตามที่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2545 กำหนดไว้ในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และ มาตรา 10

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสปสช.ได้ดำเนินการหารือคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาให้มีความชัดเจน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคำนึงถึง 3 เรื่องหลัก คือ

1. ประชาชนต้องไม่ได้รับผลกระทบ โดยให้หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง จัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ตามปกติ

2. โรงพยาบาลไม่เดือดร้อน

3. ต้องเป็นไปตามกฎหมาย

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ 1
นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์

จากการหารือนอกรอบเมื่อสัปดาห์ก่อน ท่านเลขาฯสปสช. ได้เห็นชอบตรงกันเรื่องข้อเสนอให้แยกจัดสรรเงินบริการประเภทผู้ป่วยนอก (OP) และผู้ป่วยใน (IP) และรายการอื่น ๆ ไปให้หน่วยบริการก่อน เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อหน่วยบริการ

ทั้งนี้ เนื่องจากงบสำหรับบัตรทองปีงบประมาณ 2566 วงเงินทั้งหมด 204,140.03 ล้านบาทเป็นงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่รอการพิจารณาทางข้อกฎหมายเพียง 21,381.11 ล้านบาท หรือประมาณ 10% เท่านั้น

ขณะที่งบส่วนอื่นๆ ที่ขอให้แยกจัดสรรเป็นงบส่วนใหญ่ เช่น งบเหมาจ่ายรายหัว 161,602.67 ล้านบาท ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 3,978.48 ล้านบาท ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 9,952.18 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วรเรื่องการจัดบริการประชาชน ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขยังดำเนินการตามปกติ ส่วนใหญ่มีงบประมาณพอรองรับการดำเนินงาน ระหว่างนี้หากโรงพยาบาลใดมีข้อติดขัด ขอให้แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัด และรายงานผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำเขตสุขภาพ แก้ไขปัญหาในระดับเขตสุขภาพ

หลังจากนี้ บอร์ด สปสช. จะมีการประชุมในวันที่ 14 ธันวาคม นี้ หากมีมติให้แยกจัดสรรงบตามที่กระทรวงเสนอ คาดว่าหน่วยบริการจะได้รับจัดสรรงบส่วนใหญ่สำหรับดูแลประชาชนภายในปลายเดือนธันวาคม 2565

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo