COVID-19

ระวัง!! ‘อนุทิน’ เตือนโควิดเริ่มโจมตีกลุ่มไม่ฉีดวัคซีน 608 อันตรายสุด!

“อนุทิน” ย้ำ “โควิด” คุกคามกลุ่มผู้ไม่ได้รับวัคซีน ยิ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ยิ่งอันตราย ขอคนไทยรับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม ช่วยลดความรุนแรงและการเสียชีวิต เน้นเข้าถึงบริการจุดฉีดง่ายขึ้น

วานนี้ (1 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขครั้งสุดท้ายของปี 2565 โดยระบุว่า ที่ประชุมได้ยืนยันถึงเรื่องคนไทยทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้ครบ 4 เข็ม ตามมติจากที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคโควิด-19

อนุทิน

กลุ่ม 608 ยิ่งมีอันตราย

ทั้งนี้ เนื่องจากมีข้อมูลว่าจะช่วยให้มีความปลอดภัย หากติดเชื้ออาการจะไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายของปี จะมีการท่องเที่ยว มีกิจกรรมการเดินทางจำนวนมาก ผู้ประกอบการต้องรับลูกค้าเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา จึงอาจมีความเสี่ยงเกิดการแพร่เชื้อได้

อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้สถานพยาบาลทุกระดับเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีนโควิดแก่ประชาชน รวมถึงจัดหน่วยเคลื่อนที่ไปให้บริการในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้วย

“สำหรับกลุ่มที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลย ขอให้มาฉีดวัคซีนเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลทั่วโลกพบว่า โรคโควิด 19 จะคุกคามผู้ไม่ได้รับวัคซีนได้มากที่สุด ยิ่งเป็นกลุ่ม 608 ยิ่งมีอันตราย เสี่ยงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตได้ แต่หากรับวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะเข็ม 4 จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้อย่างมาก” นายอนุทิน กล่าว

อนุทิน

วัคซีนมีเพียงพอ

นายอนุทิน ยืนยันว่า วัคซีนขณะนี้มีเพียงพอ สถานพยาบาลมีความพร้อมดูแล ส่วนผู้ประสงค์รับมากกว่า 4 เข็ม เนื่องจากมีความเสี่ยง เช่น ต้องเดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง ต้องพบปะผู้คนจำนวนมากตลอดเวลา ให้บริการสาธารณะ ขนส่ง ต้องดูแลลูกค้า เป็นต้น ก็สามารถแจ้งความต้องการได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือถึงนโยบายของขวัญปีใหม่ ซึ่งจะเน้นเรื่องการดูแลผู้สูงอายุให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ เพื่อรองรับการเป็นสังคมสูงอายุของประเทศไทย โดยมอบหมายให้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งวางยุทธศาสตร์และวิธีการที่เหมาะสม โดยเรื่องการดูแลผู้สูงอายุนี้จะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของกลุ่มวัยอื่นด้วย เพราะหากผู้สูงอายุเจ็บป่วย มีภาวะพึ่งพิง จะส่งผลไปถึงลูกหลานต้องมาดูแล ทำให้สูญเสียโอกาสการทำงานและสร้างรายได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK