COVID-19

ศูนย์จีโนมฯ คาด ปี 66 ‘โอไมครอนรุ่น 3’ มาแน่ โควิด มูฟออนไปกันเรา ในชื่อ ‘Pi’

ศูนย์จีโนมฯ คาด ปี 66 ‘โอไมครอนรุ่น 3’ มาแน่ โควิด มูฟออนไปกันเรา ในชื่อ ‘Pi’

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุ โควิดมูฟออนไปพร้อมๆ กับมนุษย์ และในปี 66 ทั่วโลกอาจมีโอกาสได้เห็นโอไมครอนรุ่น 3 ไวรัสกลายพันธุ์ ในชื่ออักษรกรีก π (พาย/Pi) ดังนี้

การอุบัติขึ้นของโอมิครอนรุ่นที่ 1,  2,  3, สายพันธุ์ลูกผสม และ “พาย/Pi”

ไวรัสโคโรนา 2019 มูฟออนไปกับเรา

ย้อนหลังไป 1 ปีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศแจ้งชื่อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529” ตามอักษรกรีกว่า “โอไมครอน” ตามคำแนะนำของกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิค เกี่ยวกับวิวัฒนาการของไวรัส (TAG-VE) ขององค์การอนามัยโลก

โอไมครอนรุ่น 3

การอุบัติและแพร่ระบาด ของโอไมครอนรุ่นแรก

จากหลักฐานที่ว่า “โอไมครอน” มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง โดยเฉพาะส่วนโปรตีนหนามที่อาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว (กว่าสายพันธุ์เดลตา) อาจมีผู้ติดเชื้อเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

จากนั้นเพียง 4 สัปดาห์ นักวิทยาศาสตร์ในหลายประเทศก็ได้พบ “โอไมครอน” ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ “เดลตา”  แต่โชคดีที่โรคโควิด-19 จากสายพันธุ์โอไมครอนมีอาการความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต ต่ำกว่าสายพันธุ์เดลตามาก

ต้นปี 2565 โอไมครอน (B.1.1.529) เริ่มมีการกลายพันธุ์เกิดเป็นโอไมครอนรุ่นแรก (first generation omicron variants) ทยอยระบาดแทนที่กันมาเป็นลำดับตั้งแต่ BA.1, BA.2, BA.4, และ BA.5 ที่ระบาดอยู่ขณะนี้ (ปลายปี 2565)

(ภาพ1)

โอไมครอนรุ่น 3

โอไมครอนรุ่น 2 กลุ่มสายพันธุ์ย่อย

ตั้งแต่ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาโอไมครอน BA.5 เริ่มอ่อนกำลังการระบาดและลดจำนวนลง โลกก็ได้พบกับโอไมครอนรุ่นสอง (second generation omicron variants) เป็นกลุ่มโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย  (A soup of omicron subvariants)  ซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.2”  เช่น BA.2.75, BN.1, CH.1.1, BQ,1, BQ.1.1, BF.7 อุบัติขึ้นมา

(ภาพ2)

โอไมครอนรุ่น 3

ไวรัสลูกผสม

ในเวลาไล่เลี่ยกันหลายประเทศได้พบกับไวรัสลูกผสม (recombinant  variant) ในสองลักษณะ

  1. ระหว่างโอไมครอนต่างสายพันธุ์ ที่สามารถเพิ่มตำแหน่งการกลายพันธุ์ได้รวดเร็ว กว่าการกลายพันธุ์ด้วยตนเอง ของแต่ละสายพันธุ์ โดยเฉพาะบริเวณส่วนโปรตีนหนาม เพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและการติดเชื้อจากธรรมชาติ ได้เหนือกว่าบรรดาโอไมครอนรุ่นสอง

I. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ “XBB” เป็นลูกผสมระหว่างโอไมครอน BJ.1 และ BA.2.75*

II. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์ “XBD” เป็นลูกผสมระหว่างโอไมครอน BA.2.75 และ BA.5.2.1 และ

III. โอมิครอนลูกผสมสองสายพันธุ์  “XBF” เป็นลูกผสมระหว่างโอไมครอน BA.5.2.3 และ BA.5.2.1

(ภาพ3)

โอไมครอนรุ่น 3

  1. ระหว่างสองสายตระกูล “เดลตา” และ “โอไมครอน BA.2” ที่เรียกขานกันว่า “เดลตาครอน” พบไม่มากในประเทศฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, ออสเตรีย ฯลฯ กล่าวคือ XAY,XBA,XBC, และ XAW

(ภาพ4)

ผู้เชี่ยวชาญตั้งสมมติฐานว่า ลูกผสมจากสองสายตระกูลเหล่านี้ เกิดจากผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเดลตาเรื้อรัง แล้วมาติดเชื้อซ้ำด้วยสายพันธุ์โอไมครอน BA.2  เกิดการแลกเปลี่ยนส่วนของจีโนมในร่างกายของผู้ติดเชื้อรายเดียวกัน เกิดเป็นลูกผสมระหว่าง เดลตา และโอไมครอน

XAY และ XBC ยังคงหมุนเวียนอยู่ในหลายประเทศ แต่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ สายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสองตระกูลเหล่านี้แพร่ระบาดได้ไม่ดีนัก อันอาจเนื่องมาจากยีนสร้างโปรตีนหนามได้มาจากโอไมครอน BA.2 เกือบ 100% ต่างจากโอไมครอนต่างสายพันธุ์ เช่น“XBB” ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว

เนื่องจากส่วนหนามมาจากโอไมครอนลูกผสมสองสายพันธุ์  คือ BJ.1 และ BA.2.75* ที่เสริมประสิทธิภาพการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน และจากการติดเชื้อตามธรรมชาติได้ดีกว่าเดลตาครอน  แต่ก็ยังมีข้อที่น่ากังวลใจที่เดลตาครอนเป็นสายพันธุ์มียีนก่อโรครุนแรงของสายพันธุ์เดลต้าอยู่ด้วย

(ภาพ3-4)

โอไมครอนรุ่น 3

โอไมครอนลูกผสม XBB และ XBB.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าโอไมครอนรุ่นที่สองทุกสายพันธุ์ในปัจจุบัน(BA.2.75,  BN.1, BQ,1, BQ.1.1, BF.7)  ยกเว้นเพียงสายพันธุ์เดียวคือ CH.1.1 ซึ่งมีต้นตระกูลมาจาก BA.2 พบในประเทศออสเตรีย, ออสเตรเลีย, อังกฤษ ฯลฯ

(ภาพ5)

โอไมครอนรุ่น 3

ปีหน้าโควิดมูฟออนไปกับเรา พร้อมโอไมครอนรุ่น 3 Pi

ปีหน้า 2566 คาดว่าทั่วโลกอาจมีโอกาสได้เห็นโอไมครอนรุ่นสาม (third generation omicron variants) เป็นโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.5” ซึ่งยังไม่อาจคาดคะเนได้ว่า จะมีอาการไม่รุนแรงคล้ายไข้หวัดหรือก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง (severe) จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเหมือนในช่วงที่เดลตาระบาด

จนองค์การอนามัยโลกต้องให้อักษรกรีกที่จะใช้กับไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ก่อโรครุนแรงตัวถัดจากโอไมครอนคือ π (พาย/Pi) หรือไม่

อนึ่งการที่มีโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย  ซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลนของ “BA.2”  ระบาดขึ้นมาก่อน เพราะ BA.2 มีการระบาดกลายพันธุ์มาก่อน BA.5 ตั้งแต่ต้นปี 2565

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo