‘โอไมครอน’ 6 สายพันธุ์ย่อย ที่ระบาดในไทย ควรรักษาด้วย ‘ยาแอนติบอดีสำเร็จรูป’ ประเภทใด เช็กเลย!!
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomic เรื่อง การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอไมคsอนที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน ควรใช้ยาแอนติบอดีสำเร็จรูปแบบใด ข้อความดังนี้
โอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยที่ตรวจพบในไทย BA.5, BA.2.75, BF.7, BQ.1, XBB และ XBB.1 ควรรักษาด้วยยาแอนติบอดีสำเร็จรูปประเภทใด?
โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่พบทั้งหมดในประเทศไทย
โอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยที่ตรวจพบในประเทศไทย จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมและแชร์ข้อมูลบนฐานข้อมูลโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)” 6 อันดับแรกคือ
- BA.5* (BA.5.X) จำนวน 2,550 ราย 33%
- BA.2.75* (BA.2.75.X) จำนวน 61 ราย 1.4%
- BF.7 จำนวน 2 ราย <0.5%
- BQ.1 จำนวน 1 ราย <0.5%
- XBB จำนวน 1 ราย <0.5%
- XBB.1 จำนวน 2 ราย (อยู่ในระหว่างคำนวณ %)
อนึ่งโอไมคsอนที่พบทั้งหมดในประเทศไทย มีจำนวนมากว่า 17,781 ราย คิดเป็นร้อยละ 71 (ระหว่าง 12 กย 2564- 27 กย 2565)
โดยยังไม่พบโอไมคsอนสายพันธุ์ย่อย BQ.1.1 และ XBC จากฐานข้อมูลโควิดโลก “กิสเสด” ในขณะนี้ (15/11/2565) (ภาพ1)
สายพันธุ์ไหน ใช้ยาแอนติบอดีสำเร็จรูปประเภทใด?
ประเทศไทยมีการจัดเตรียมแอนติบอดีสำเร็จรูป แบบ Long Acting Antibodies (LAAB) ที่มีชื่อว่า “อีวูชีลด์” (Evusheld) เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประชาชนเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ไม่ดี เช่น ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ปลูกถ่ายอวัยวะ ปลูกถ่ายไขกระดูก หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้
โดย “อีวูชีลด์”สามารถใช้รักษาการติดเชื้อสายพันธุ์ BA.5*, BA.2.75* และสายพันธุ์ลูกผสม XBC (ยังไม่พบในประเทศไทย) ได้ดี(ภาพ2)
ส่วนโอไมคsอนสายพันธุ์ย่อย BQ.1,BQ.1.1, XBB, และ XBB.1 จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า ดื้อต่อแอนติบอดีสำเร็จรูป “อีวูชีลด์” อาจต้องเปลี่ยนไปใช้แอนติบอดีค็อกเทล ที่มีศักยภาพสามารถยับยั้งไวรัสโคโรนา 2019 หรือ SARS-CoV-2 ได้ทุกสายพันธุ์ (Broadly Neutralizing Monoclonal Antibodies) อาทิ แอนติบอดีค็อกเทล SA55 และ SA58 ซึ่งผลจากห้องปฏิบัติการพบว่าสามารถยับยั้ง ไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทุกสายพันธุ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน(ภาพ2)
ความเสี่ยงเสียชีวิตเป็นศูนย์ หากได้รับวัคซีนตามกำหนด
ดร.อาชิช จา (Ashish Jha) หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิดของทำเนียบขาว ได้กล่าวว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันความเสี่ยงของการเจ็บป่วยรุนแรงถึงเสียชีวิตจากโควิด-19 แทบจะเป็น “ศูนย์” สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามกำหนดและผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสในทันที ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดหรือยาฉีด ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระวัง ‘เดลตาครอน XBC’ ไวรัสลูกผสม ‘เดลตา+BA.2’ โจมตีปอดอย่างเดลตา แพร่เร็วเหมือนโอไมครอน
- ผู้เชี่ยวชาญเผยแล้ว ฉีดวัคซีน ‘mRNA’ แบบไหน? สู้โอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยได้ดีที่สุด
- ‘XBB’ แซงขึ้นครองอันดับ 1 ในการหลบภูมิ แพร่เชื้อ และดื้อยา ศูนย์จีโนมฯ เผยต้องเฝ้าระวัง ‘ไวรัสลูกผสม’