สหรัฐทุ่ม 3.7 หมื่นล้านบาท ในโครงการ ‘RECOVER’ วิจัยรักษาอาการ ‘ลองโควิด’ ด้วยยาต้านไวรัส เริ่ม 1 ม.ค.66
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่องความพยายามในการรักษาอาการลองโควิดของสหรัฐ โดยจะเริ่มวิจัยในโครงการ RECOVER โดยใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งโครงการนี้ได้มีการทุ่มเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ข้อความดังนี้
ความพยายามในการรักษาอาการ “ลองโควิด” ด้วยยาต้านไวรัส สหรัฐทุ่ม 1 พันล้านดอลลาร์หรือ 3.7 หมื่นล้านบาทกับโครงการ “RECOVER” เริ่ม 1 มกราคม 2566
สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) แถลงว่าจะมีการทดลองใช้ยาเม็ดต้านไวรัสที่ยับยั้งการสร้างอนุภาคไวรัสโคโรนา 2019 ในร่างกายผู้ติดเชื้อ มาใช้รักษาอาการลองโควิด (Long Covid) ในโครงการวิจัยและการทดลองทางคลินิกสำหรับ Long Covid ที่มีชื่อว่า “RECOVER Initiative” โดยมีทุนสนับสนุนการวิจัยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.7 หมื่นล้านบาท
มี Duke Clinical Research Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย “ดุ๊ก (Duke)” ที่เป็นองค์กรวิจัยทางคลินิกเชิงวิชาการที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะเข้ามาดูแลการทดลองแบบสุ่มและควบคุมด้วยยาหลอก ซึ่งจะทดสอบการรักษาอาการลองโควิดด้วยยาต้านไวรัสประเภท “สารยับยั้งโปรตีเอส (protease inhibitor) ที่สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ของไวรัสไม่ให้สร้างอนุภาคไวรัสที่สมบูรณ์
มีอาสาสมัครในช่วงอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีอาการ Long Covid จำนวน 1,700 คนเข้าร่วมโครงการ โดยจะสุ่มให้ได้รับ “ยายับยั้งโปรตีเอส” และ “ยาหลอก” มีกำหนดเริ่มการทดลองทางคลินิกในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 (ภาพ1)
ทำไมต้องรักษาอาการลองโควิดด้วยยาต้านไวรัส
อาการ Long Covid ส่งผลกระทบต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประมาณถึง 1 ใน 3 (10%-30%) โดยปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่จำเพาะ จากการค้นคว้าวิจัยมาตลอดระยะเวลาเกือบสามปีพอสรุปได้ว่าอาการ Long Covid หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า ผลสืบเนื่องอย่างเฉียบพลันที่เกิดขึ้นภายหลังการติดเชื้อโควิด-19 (Post Sequelae of COVID-19: PASC) น่าจะเกิดมาจาก 4 สาเหตุหลัก
- การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดขนาดเล็กที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ (เนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19)
- ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย (เนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19)
- ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 เรื้อรัง (อันอาจมาจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง) ทำให้อนุภาคไวรัสที่สมบรูณ์หรือบางส่วนปรากฏขึ้นในร่างกายผู้ติดเชื้อ เกิดเป็นการติดเชื้อระยะยาวหรือถาวร (persistent infection) ก่อให้เกิดอาการหลากหลายที่ยืดเยื้อซึ่งรวมถึงอาการในสาเหตุที่ 1 และ 2 (ภาพ2)
- พันธุกรรมจีโนมส่วนบุคคล (ภาพ3-4) ที่ทำให้เกิดอาการ Long Covid
โครงการวิจัย “RECOVER” จะมุ่งเน้นแก้ปัญหาข้อที่ 3 โดยการให้ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นสารยับยั้งโปรตีเอส (protease inhibitor)แก่ผู้ป่วย Long Covid จำนวน 1,700 คน ต่อเนื่อง 15 วันและดูว่าอาการ Long Covid ของบรรดาอาสาสมัครที่เข้าร่วมโครงการจะมีอาการดีขึ้นภายใน 90 วันหรือไม่
ส่วนการแก้ปัญหาที่ 4 การเกิด Long Covid จากพันธุกรรมจีโนมส่วนบุคคลนั้น ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ กำลังดำเนินการวิจัยร่วมในโครงการนานาชาติ “Covid human genetic effort” (ภาพ 3-4) https://www.facebook.com/…/pfbid02hQ9SYCCUP9TeS5nsrUNEZ…
อาการลองโควิดเป็นอย่างไร
ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention, CDC) พบว่าสภาวะอาการหลังโควิด-19 มีการเจ็บป่วยด้วยอาการที่หลากหลายมากกว่า 200 อาการย่อย (ภาพ 2.1) อาการบางอย่างเกิดขึ้นชั่วคราว บางอาการมีระยะยาวนานแล้วแต่ละบุคคล เกิดได้แม้ในผู้ใหญ่สุขภาพสมบรูณ์ที่ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง โดยมีอาการป่วยคล้าย ME/CFS
อาการ ME/CFS
“Chronic fatigue syndrome (CFS)” หรือรู้จักกันในภาษาไทยว่า “อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง” และ “Myalgic Encephalomyelitis (ME)” หรือ “อาการปวดกล้ามเนื้ออันมีเหตุมาจากการอับเสบของสมองและไขสันหลัง” เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส ความผิดปกติของฮอร์โมน และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นต้น
ME/CFS เป็นอาการที่ร้ายแรงและมีอาการยาวนานกว่าจะหายขาด ส่งผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย ผู้ที่มี ME/CFS มักจะไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ ผู้ที่มีอาการ ME/CFS ขั้นรุนแรงอาจเจ็บป่วยติดเตียงหรือต้องนั่งรถเข็นเลยทีเดียว ผู้ที่มี ME/CFS จะมีปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้าและการนอนไม่หลับกระสับกระส่ายอย่างรุนแรง
อาการ ME/CFS อาจทรุดลงหลังจากที่ผู้ป่วยฝืนออกกำลังกาย หรือพยายามทำกิจกรรมที่เดิมเคยกระทำได้ อาการนี้เรียกว่าอาการไม่สบายหลังการออกแรง (PEM) อาการอื่นๆ อาจรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับการคิดและสมาธิ ความเจ็บปวด และอาการวิงเวียนศีรษะ
การทดลองทางคลินิกของโครงการ “RECOVER” ครั้งนี้จะช่วยพิสูจน์ถึงความเป็นไปได้ในการที่จะรักษาอาการ Long Covid ที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยยาต้านไวรัสประสิทธิภาพสูง หลังจากมีการติดเชื้อครั้งแรกล่วงมาแล้วหลายเดือน ผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็นก้าวใหม่ในการรักษาไวรัสประเภทอื่น เช่น ไวรัสเอ็ปสไตน์-บาร์ หรือ อีบีวี (Epstein-Barr virus, EBV) ที่มีการติดเชื้อระยะยาวหรือถาวร (persistent infection) อันก่อให้เกิดอาการ ME/CFS เช่นกัน
เราทราบมาโดยตลอดว่าการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ และการรักษาที่รวดเร็วตั้งแต่เริ่มมีอาการ จะทำให้มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะยาวสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยจากการติดเชื้อจุลชีพและไวรัส การทดลองทางคลินิกครั้งนี้ เป็นความพยายามที่จะรักษาอาการ Long Covid เป็นครั้งแรกด้วยยาต้านไวรัส
ซึ่งทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้พัฒนาการตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ทั้งจีโนมหรือบางส่วนของจีโนม ในร่างกายผู้ป่วย Long Covid ที่มีการติดเชื้อระยะยาวหรือถาวร (persistent infection) จากสิ่งส่งตรวจประเภทต่างๆได้อย่างรวดเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี long-read whole genome sequencing (nonopore platform) (ภาพ5) และ mass array genotyping (ภาพ6) เป็นที่เรียบร้อย
อ่านขาวเพิ่มเติม
- ดร.อนันต์ เผยผลวิจัย ‘สไปค์โอไมครอน’ กระตุ้นภูมิ ‘ไม่ดี’ เท่าสายพันธุ์เดิม แม้จะเป็นภูมิธรรมชาติจากการติดเชื้อ
- ทั่วโลกจับตา 5 สายพันธุ์ย่อย ‘ซุปโอไมครอน’ เพราะแพร่ระบาดเร็ว กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ต่อเนื่อง
- สื่อต่างชาติประโคมข่าว ค้นพบ ‘วิธีขัดขวาง’ การเพิ่มจำนวนไวรัสโควิด โดยใช้ยารักษามะเร็ง