COVID-19

สเปรย์พ่นจมูก ป้องกันโควิด-19 ทำงานอย่างไร มีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช็คเลย

“ดร.อนันต์” ไขข้อข้องใจ สเปรย์พ่นจมูก ป้องกันโควิด-19 ทำงานอย่างไร มีข้อจำกัดอะไรบ้าง ย้ำใช้ป้องกันการติดเชื้อ ไม่ใช่การรักษา

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana อธิบายวิธีการทำงานและข้อจำกัดของนวัตกรรมสเปรย์พ่นจมูก ป้องกันโควิด-19 โดยระบุว่า

สเปรย์1 ปก

 

เนื่องจากมีผู้สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมสเปรย์พ่นจมูกป้องกันโควิด-19 เป็นวงกว้าง

หลาย ๆ ท่านยังสับสนว่า สเปรย์ทำงานอย่างไร และ มีข้อจำกัดอย่างไร

ขออนุญาตสื่อสารข้อมูลทางวิชาการเท่าที่ผมมีข้อมูลนะครับ ส่วนข้อมูลทางคลินิก เกี่ยวกับผลการทดสอบในอาสาสมัคร สามารถดูข้อมูลได้จาก Preprint ที่กำลังเผยแพร่ใน medRXiv อีก 2-3 วันข้างหน้านี้นะครับ

หลักการในขวดของสเปรย์ จะมีองค์ประกอบหลัก ๆ อยู่ 2 ส่วน คือ 1. hypromellose (HPMC) และ 2. แอนติบอดีชนิด human monoclonal antibody 2 โคลน ชื่อว่า 1D1 และ 3D2 ผสมกันอยู่

HPMC จะเป็นสารที่ทำหน้าที่เคลือบเยื่อบุ เพื่อป้องกันการจับของอนุภาคไวรัสกับผิวเซลล์ คล้าย ๆ กับปราการด่านแรกให้ไวรัสเข้าหาเซลล์ได้ยากขึ้น

สเปรย์

แต่ลำพัง HPMC อย่างเดียวคงป้องกันการเข้าถึงเซลล์ของไวรัสไม่ได้ เพราะถ้าไวรัสเพียงไม่กี่อนุภาคเล็ดลอดเข้าถึงเซลล์ได้ การติดเชื้อและเพิ่มจำนวนของไวรัสก็จะเกิดขึ้นทันที

ดังนั้น HPMC จะเป็นเหมือนตะแกรงกรองไวรัสให้มีจำนวนน้อยลง ก่อนเข้าโจมตีเซลล์ในจมูก

หน้าที่ของการจับไวรัสที่ผ่าน HPMC มาได้ จะเป็นแอนติบอดี 2 ชนิดที่อยู่ในสเปรย์ โดยแอนติบอดีนี้มาจาก B cell ที่แยกมาจากผู้ป่วยโควิดที่หายแล้ว และมี B cell ที่สร้างแอนติบอดีที่สามารถจับกับส่วนของหนามสไปค์ที่สำคัญได้ดี สามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสได้

ตำแหน่งที่แอนติบอดีนี้ไปจับเป็นตำแหน่งที่พบว่า ไวรัสมีการกลายพันธุ์น้อย ตั้งแต่ Wuhan จนถึง โอไมครอน BA.2 ยังสามารถถูกจับและยับยั้งโดยแอนติบอดีได้ดีมาก

ส่วน BA.5 ถึงแม้จะจับได้น้อยลง แต่ปริมาณของแอนติบอดีที่อยู่ในสเปรย์ ก็ยังสูงมากพอที่จะจับ และยับยั้งไวรัสได้อยู่ โดยเฉพาะไวรัสที่ผ่าน HPMC เข้ามามีน้อยอยู่แล้ว แอนติบอดีก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น โดยหลักการดังกล่าว แอนติบอดีจึงยับยั้งการติดเชื้อหากเสี่ยงได้รับเข้ามาได้ในระดับหนึ่ง

อนันต์ 1 1

สำหรับข้อจำกัดของการใช้งานคือ HPMC กับ แอนติบอดี จะอยู่ในจมูกเราไม่นาน ข้อมูลคือ จะเริ่มถูกกลไกของร่างกายกำจัดออกไปเรื่อย ๆ และจะหมดประสิทธิภาพการป้องกันที่ 6 ชั่วโมงหลังฉีด

 

ดังนั้น การพ่นสเปรย์จึงแนะนำให้ใช้ก่อนมีความเสี่ยงติดเชื้อจะดีที่สุด เพราะ โอกาสหลุดจะมีสูงหากรับเชื้อหลังพ่นนานเกินไป

ประเด็นสำคัญที่อยากเน้นคือ นวัตกรรมนี้ออกแบบมาเพื่อการป้องกันการติดเชื้อ ไม่ใช่การรักษา ในกรณีผู้ป่วยที่ติดโควิดแล้วปริมาณไวรัสในร่างกายจะมีมากเกินกว่าที่แอนติบอดีจากการฉีดพ่นจะป้องกันยับยั้งได้ จำเป็นต้องใช้แอนติบอดีจากธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นจากวัคซีนเท่านั้น

การใช้สเปรย์ฉีดพ่นในกรณีที่ร่างกายเรามีเชื้อไวรัสอยู่แล้ว จะมีความเสี่ยงให้ไวรัสในร่างกายเราเปลี่ยนแปลงจนหนีแอนติบอดีจากสปรย์ฉีดพ่นได้ ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้นวัตกรรมดังกล่าว เพราะถ้ามีสายพันธุ์ที่หนีสเปรย์ได้จากการใช้ผิดวิธี จะส่งผลให้นวัตกรรมนี้ลดประสิทธิภาพการป้องกันลดลงครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo