COVID-19

ยอดติดโควิดทั่วโลกทะลุ 600 ล้านรายในเวลา 2 ปี 9 เดือน ‘หมอธีระ’ เตือนในไทยยังหนัก!

ยอดติดโควิดทั่วโลกทะลุ 600 ล้านรายในเวลา 2 ปี 9 เดือน “หมอธีระ” เตือนสถานการณ์ในไทยยอดติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังสูงมาก จำนวนเสียชีวิตก็ติดอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และ Top 10-20 ของโลกต่อเนื่อง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุว่า 21 สิงหาคม 2565 ยอดติดโควิดทั่วโลกทะลุ 600 ล้านไปแล้ว…ใช้เวลาราว 2 ปี 9 เดือน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 624,379 คน ตายเพิ่ม 1,145 คน รวมแล้วติดไป 600,218,960 คน เสียชีวิตรวม 6,470,506 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย อิตาลี และไต้หวัน

ยอดติดโควิดทั่วโลก

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 89.69% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 71.35%

…สถานการณ์ระบาดของไทย

จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคมจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

…เทียบไข้หวัดใหญ่สเปน และโควิด-19

ไข้หวัดใหญ่สเปนนั้นถือเป็นการระบาดที่รุนแรงที่สุดในอดีต โดยทำให้คนติดเชื้อไปราว 500 ล้านคน โดยใช้เวลาตั้งแต่กุมภาพันธ์ 1918 ถึงเมษายน 1920 คิดเป็นเวลาราว 2 ปี 2 เดือน

ในขณะที่โรคโควิด-19…(ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา และไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่) นั้น ก้าวข้ามไข้หวัดใหญ่ไปมาก โดยสถิติล่าสุดวันนี้ทะลุ 600 ล้านไปแล้ว โดยใช้เวลา 2 ปี 9 เดือน

ยอดติดโควิดทั่วโลก

ผลลัพธ์ที่ต่างกันมากระหว่างอดีตกับปัจจุบัน

ลองดูช่วงที่โควิด-19 แตะ 500 ล้านคนนั้นพบว่าประมาณวันที่ 9 เมษายน 2022 หากประมาณระยะเวลาก็จะพบว่าเคสแรกในโลกพบเมื่อพฤศจิกายน 2019 นั่นคือใช้เวลาราว 2 ปี 5 เดือน

จะสังเกตว่าระยะเวลาถึง 500 ล้านคนนั้น โควิด-19 พอ ๆ กับไข้หวัดใหญ่ แต่อย่าลืมว่ายุคสมัยต่างกันถึง 100 ปี โดยปัจจุบันมีความรู้ ความก้าวหน้าทางการแพทย์ สุขอนามัย เทคโนโลยี และอื่นๆ มากกว่าอดีตอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องของการติดเชื้อนั้นกลับไม่ต่างกันเท่าใดนัก เหตุผลหนึ่งที่พอจะอธิบายได้คือ ความหนาแน่นประชากร และปัจจัยแวดล้อมทางสังคม อาทิ รูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ต่างกันมากระหว่างอดีตกับปัจจุบันคือ จำนวนผู้เสียชีวิต โดยยุคไข้หวัดสเปนนั้นคาดประมาณว่ามีคนเสียชีวิตราว 17-50 ล้านคน ในขณะที่ยุคโควิด-19 นั้น นับถึงช่วงที่ติดไป 500 ล้านคน มีเสียชีวิตไปราว 6.2 ล้านคน อันเป็นผลมาจากยาและวัคซีน รวมถึงวิทยาการด้านการแพทย์และเทคโนโลยี

ยอดติดโควิดทั่วโลก

การติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังสูงมาก

ที่น่ากังวลคือ โรคโควิด-19 ไม่ได้หยุดที่ 500 ล้าน แต่การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ลักษณะการใช้ชีวิตและการป้องกันตัวของประชาชน รวมถึงความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นและทำให้การเข้าถึงบริการที่จำเป็นนั้นไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอ หรือไม่มีคุณภาพ เช่น การตรวจโรค การดูแลรักษา การป้องกัน และกลไกการสนับสนุนทางสังคม

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของไทยเรา การติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังสูงมาก จำนวนเสียชีวิตก็ติดอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และ Top 10-20 ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เราตระหนักว่า การป้องกันตัวระหว่างดำรงชีวิตประจำวันถือเป็นเรื่องจำเป็น

วงวิชาการทั่วโลกมิได้กังวลแค่เรื่องติดเชื้อ ป่วย และตาย แต่ปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID คือ Pandora box ที่ไม่อยากให้แจ็คพอตเกิดขึ้น เพราะยังไม่มีความรู้ตกตะกอนดีพอ และยังไม่มีวิธีรักษาที่จำเพาะเจาะจง การฉีดวัคซีนช่วยลดความเสี่ยง Long COVID ได้ราว 15%

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การใช้ชีวิตโดยป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องนั้นเป็นหัวใจสำคัญ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK