COVID-19

‘อนุทิน’ โยน ‘ศบค.’ เคาะยกเลิก ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ หากลดระดับ ‘โควิด’

“อนุทิน” โยน “ศบค.” เคาะยกเลิก “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” หากลดระดับ “โควิด” จากโรคติดต่อร้ายแรงเป็นโรคเฝ้าระวัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะเสนอที่ประชุมศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) ให้พิจารณาแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะประกาศให้โควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรงมาเป็นโรคเฝ้าระวัง เป็นการลดระดับจากสีแดงมาเป็นสีส้มอ่อน

อนุทิน

ขึ้นอยู่กับ ศบค.

ส่วนแนวทางการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ ศบค.จะพิจารณา ทั้งนี้ อย่ามองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นการควบคุมสถานการณ์โรคระบาดเท่านั้นเอง การมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มความคล่องตัวในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิดมากขึ้น มีเพื่อสนับสนุนหากมีความต้องการเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีน ได้รวดเร็วมากขึ้น การมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่ากับมี ศบค.

“เมื่อมีปัญหาเร่งด่วนก็เข้ามาประชุม ศบค. มีทุกภาคส่วนได้รับทราบ ทั้งนายกรัฐมนตรี คณะบุคลากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร การคมนาคม พาณิชย์ ได้มีส่วนร่วมกันทำงาน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความสบายใจ เหมือนมีหลังพิงที่จะใช้ในการทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ แต่หากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทุกอย่างก็อาจจะต้องกลับไปใช้ตามระเบียบพัสดุ ระเบียบต่าง ๆ เหมือนเดิม” นายอนุทิน กล่าว

อนุทิน

ไม่ได้กระทบวิถีชีวิต

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ได้กระทบวิถีชีวิตใด ๆ ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่จะร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ให้ดูแลประชาชน ซึ่งถือว่าในอนาคตหากไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สถานการณ์น่าจะมีแนวโน้มที่ดี

ส่วนเรื่องการซื้อวัคซีนใหม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน หากมีความเห็นชอบก็สามารถนำเสนอซื้อวัคซีนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ต้องยึดตามหลักวิชาการทางการแพทย์ ทั้งการนำเข้ายาและวัคซีน ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo