“หมอธีระ” เทียบอาการเด็กติดโอไมครอนกับเดลต้า แนะสังเกตอาการที่พบบ่อยในเด็ก เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ย้ำ! พาเด็กไปฉีดวัคซีนตามอายุที่กำหนดเป็นเรื่องจำเป็น
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 15 สิงหาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 491,159 คน ตายเพิ่ม 871 คน รวมแล้วติดไป 595,050,336 คน เสียชีวิตรวม 6,454,248 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย ไต้หวัน และอิตาลี
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก ทั้งนี้สัดส่วนของประเทศจากเอเชียมีมากถึงครึ่งหนึ่งของ 20 อันดับแรก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 88.78% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 82.77%
…สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคมจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…อาการของเด็กที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron
Shoji K และคณะ จากประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารทางการแพทย์โรคติดเชื้อ Journal of Infections and Chemotherapy วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยศึกษาเปรียบเทียบอาการป่วยในกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 สมัยสายพันธุ์เดลต้า (ช่วง 1 สิงหาคมถึง 31 ธันวาคม 2564) จำนวน 458 คน กับสายพันธุ์ Omicron (ช่วง 1 มกราคมถึง 15 พฤษภาคม 2565) จำนวน 389 คน
พบว่าในยุค Omicron นี้ เด็ก ๆ จะมีอาการหลายอย่างที่แตกต่างจากสมัยเดลต้า
- หนึ่ง มีอายุเฉลี่ยที่ป่วยน้อยกว่าสมัยเดลต้า
- สอง เด็กอายุ 2-12 ปีนั้นจะพบว่ามีไข้ (ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป) มากกว่าสมัยเดลต้า
- สาม เด็กอายุ 2-12 ปีนั้นจะพบว่าอาการชักได้มากกว่าสมัยเดลต้า
- สี่ ในเด็กอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป จะพบอาการเจ็บคอมากกว่าสมัยเดลต้า
- ห้า ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป พบอาการดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ น้อยกว่าสมัยเดลต้า
- และสุดท้ายคือ จำนวนผู้ป่วยเด็กที่ต้องให้อ๊อกซิเจนนั้นมีมากกว่าสมัยเดลต้า แต่อัตราการป่วยหนักจนต้องรับการรักษาในไอซียูนั้นไม่ได้แตกต่างจากสมัยเดลต้า
ข้อมูลข้างต้นจากทางประเทศญี่ปุ่น ช่วยสะท้อนให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครู ได้ตระหนักถึงอาการของเด็กที่ติดเชื้อในสมัย Omicron นี้ เพื่อที่จะได้ช่วยกันสังเกตอาการที่พบบ่อยในเด็ก เช่น ไข้ เจ็บคอ เพื่อที่จะได้นำเด็ก ๆ ไปตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ลดโอกาสที่จะเกิดผลแทรกซ้อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องชักหรือการป่วยหนักตามมา
การพาเด็ก ๆ ไปฉีดวัคซีนตามอายุที่กำหนดนั้นเป็นเรื่องจำเป็น และที่สำคัญยิ่งคือ การสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักวิธีป้องกันตัวอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ เช่น การใส่หน้ากาก ล้างมือ และระมัดระวังการพูดคุยระหว่างกินอาหารกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน กินไม่คุย จะคุยควรใส่หน้ากาก
…เต่าใหญ่ไข่กลบ…
ข่าวที่แพร่กันในโซเชียลว่า จะได้ภูมิคุ้มกันดีที่สุดหากฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อนั้น อาจทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่า ฉันฉีดวัคซีนมาแล้ว ยอมลดการ์ดดีกว่า เพื่อที่จะติดเชื้อจะได้ภูมิสูง ๆ แล้วจะป้องกันได้ ความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้นชัดเจนว่าไวรัสกลายพันธุ์ได้อย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มที่ผ่านมาพบว่ามักมีสมรรถนะที่จะหลบหลีกภูมิคุ้มกันมากขึ้น ดังที่เห็นจาก Omicron สายพันธุ์ย่อยที่ครองการระบาดขณะนี้อย่างเช่น BA.5 รวมถึงสายพันธุ์อื่น อาทิ BA.4 และ BA.2.12.1
บทความวิชาการทบทวนความรู้จาก Nature Reviews Immunology ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ชี้ให้เห็นว่า ต่อให้ฉีดวัคซีน แล้วมีการติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ระดับภูมิคุ้มกันต่อ BA.5 ก็อยู่ในระดับน้อย เฉกเช่นเดียวกัน หากไวรัสกลายพันธุ์ต่อไปเรื่อย ๆ แม้จะติดเชื้อ ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นมาก็อาจไม่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ได้ในอนาคต
ตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น หลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนว่า วัคซีนต่าง ๆ ที่มีมานั้นมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันชัดเจน โดย mRNA vaccines กระตุ้นภูมิได้ดีกว่าประเภทอื่น ๆ ทั้งไวรัลเวคเตอร์และเชื้อตาย อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการศึกษาแล้วพบว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแบบต่างแพลตฟอร์มจะช่วยกระตุ้นภูมิได้ดีขึ้นหรือเทียบเท่าแพลตฟอร์มเดียวกัน
ที่สำคัญคือ ต้องรู้เท่าทันว่าการฉีดวัคซีนนั้นมีประโยชน์ช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดโอกาสเสียชีวิต แต่ฉีดแล้ว หากไม่ป้องกันตัว ก็จะป่วยได้ ยังป่วยรุนแรงได้ ยังเสียชีวิตได้ และที่สำคัญที่สุดคือ ความทุกข์จากภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการดำเนินชีวิตประจำวัน และการทำงาน โดยเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศได้
การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอในภาวะการระบาดเช่นนี้จึงมีความจำเป็น
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญ ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุด…
อ้างอิง
- Shoji K et al. Clinical characteristics of COVID-19 in hospitalized children during the Omicron variant predominant period. J Infect Chemother. 10 August 2022.
- SARS-CoV-2 hybrid immunity: silver bullet or silver lining? Nature Reviews Immunology. 9 August 2022.
- เครดิตภาพ Proverbthai
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ ย้ำ! ติดโควิดกักตัว 5 วันไม่พอ ยังแพร่เชื้อได้ 2 สัปดาห์ปลอดภัยสุด
- ‘หมอธีระ’ ห่วง! ยอดเสียชีวิตจากโควิดของไทยเฉลี่ย 7 วันพุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก
- ‘หมอธีระ’ ห่วงยอดดับโควิดในไทยยังพุ่ง ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รายงานตัวเลขต่ำจริง!