อาการโควิดล่าสุด! “หมอธีระ” เตือน BA.5 ระบาดหนัก! ยันไม่ใช่ระลอกเล็ก ๆ คนที่เคยรอดจากทุกซีซั่นก็มาโดนรอบนี้ คนที่เคยติดเชื้อแล้วก็ติดซ้ำ ย้ำ!! จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นให้ครบอย่างน้อย 3 เข็ม
นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 7 กรกฎาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 728,299 คน ตายเพิ่ม 1,279 คน รวมแล้วติดไป 557,178,217 คน เสียชีวิตรวม 6,366,079 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อิตาลี บราซิล สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 67.58% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 39.64%
…สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคมจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
…อัพเดตจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
ล่าสุดทาง WHO ได้ออกรายงานประจำสัปดาห์ WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อวานนี้ 6 กรกฎาคม 2565 ภาพรวมทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่ในสัปดาห์ล่าสุด มากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าราว 3% ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตลดลง 12%
ภูมิภาคที่มีจำนวนการติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงมาก คือ เมดิเตอเรเนียนตะวันออก 29% ตามมาด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 20% โดยทั้งสองภูมิภาคนี้มีจำนวนการเสียชีวิตเพิ่มสูงมากเช่นกันคือ 34% และ 16% ตามลำดับ
ข้อมูลข้างต้นสอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดที่ไทยเรากำลังเผชิญอยู่ และย้ำเตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ
…สายพันธุ์ที่ระบาด
จากระบบเฝ้าระวังของทั่วโลก พบว่า สัปดาห์ล่าสุด Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 ครองการระบาดทั่วโลกถึง 51.68% ตามมาด้วย BA.4 12.48% ในขณะที่ BA.2.12.1 และ BA.2 นั้นลดลงไปเหลือเพียง 10.57% และ 9% ตามลำดับ
…สมรรถนะของ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5
ด้วยข้อมูลวิชาการแพทย์จนถึงปัจจุบัน สรุปได้ดังนี้
- BA.5 แพร่ไวกว่า Omicron สายพันธุ์ก่อนหน้าอย่าง BA.1 และ BA.2 อย่างชัดเจน
- แม้จะยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกได้ว่า BA.5 จะมีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ก่อนหรือไม่ แต่ข้อมูลจากหลายประเทศทั่วโลกที่มีการระบาดมาก ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในไอซียู และจำนวนการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จึงต้องไม่ประมาท
- BA.5 ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมอย่าง BA.1 ถึง 7.5 เท่า
- BA.5 ดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้ในการรักษา ทั้ง Cilgavimab, Casirivimab, และ Imdevimab
…เมื่อเราทราบข้อมูลวิชาการ และหลักฐานเชิงประจักษ์เช่นนี้ ก็ย่อมทราบได้ว่า ที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่ระลอกเล็ก ๆ
มองรอบตัวจะเห็นคนจำนวนมากติดเชื้อกันรัว ๆ ทั้งแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม แบบครอบครัว และยกแผนกในที่ทำงาน มีทั้งที่รอดมาทุกซีซั่นแต่สุดท้ายมาโดนรอบนี้ หรือแม้แต่คนที่เคยติดเชื้อมาก่อน ก็ติดเชื้อซ้ำ
การฉีดวัคซีนนั้น จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นให้ครบอย่างน้อยสามเข็ม
ใครที่ฉีดเข็มสามไปแล้วนานกว่า 4-5 เดือน หากต้องใช้ชีวิตพบปะคนอื่นในสังคม ต้องดูแล/รักษา/บริการ หรือเป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ก็ควรพิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นอีกครั้งเป็นเข็มที่สี่
การฉีดวัคซีนนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แต่ไม่การันตี 100%
แม้ฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังติดเชื้อได้ หากไม่ป้องกันตัวให้ดี
และการติดเชื้อแต่ละครั้งย่อมเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง เสียชีวิต และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID ซึ่งจะบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะในการดำเนินชีวิตประจำวันและการทำงาน รวมถึงเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
…ย้ำอีกครั้งว่า การใส่หน้ากากเสมอ เวลาเราออกไปตะลอนนอกบ้านนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง ควรใส่ให้คุ้นชิน เป็นอวัยวะที่ 33 ของเรา
…ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือ “วิชชา” เป็นความรู้ที่เราควรนำไปพิจารณาใช้ในการตัดสินใจดำเนินชีวิต เพื่อที่จะอยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน
สังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยโรคระบาด และสิ่งเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตทั้งของตัวเรา คนในครอบครัว และเพื่อนสนิทมิตรสหาย
จะสู้ได้ ต้องใช้ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ประมาท ไม่หลงต่อกิเลส ความเชื่องมงายครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คอาการโควิดล่าสุด! ‘หมอธีระ’ เผยติดเชื้อรอบใหม่กว่า 90% มีอาการชัดเจน
- ‘หมอธีระ’ เปิด 5 แนวทางเซฟตัวเองให้รอดช่วงโควิดระบาด ย้ำ! กักตัว 5 วันไม่เพียงพอ
- โควิดระบาดหนัก! ‘หมอธีระ’ เตือนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ลั่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เวฟเล็ก ๆ