COVID-19

กทม. สะพรึง!! ผ่อนคลายหน้ากากอนามัย เด็กติดเชื้อพุ่ง กลุ่มเสี่ยงป่วยวิกฤติเพิ่ม คาดรุนแรงต่ออีก 1 เดือน

กทม. งัดมาตรการเชิงรุกสกัดโควิด หลังผ่อนปรนหน้ากากอนามัย พบเด็ก-กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม ป่วยวิกฤติสูงขึ้น เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กทม. จึงได้จัดทำมาตรการเชิงรุกที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งเมื่อติดแล้วมีอาการไม่มาก แต่อาจนำเชื้อไปติดผู้ที่ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวซึ่งเป็นกลุ่ม 608 ได้

หน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ หลังจากมีประกาศผ่อนปรนเรื่องหน้ากากอนามัย พบว่าเด็กนักเรียนมีการติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กโต รวมถึงพบว่ากลุ่ม 608 ที่ติดเชื้อจะมีการครองเตียงผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จากข้อกังวลดังกล่าว สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยจึงได้เตรียมพร้อมระบบส่งต่อ ศูนย์เอราวัณ อัตราการครองเตียง และจัดทำแผนสำรอง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยคาดการณ์จากสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงขึ้นในอีก 1 เดือน

พร้อมกันนี้ ได้เดินหน้าตามแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ผู้ที่รับวัคซีนเข็มล่าสุดมานานแล้ว โดยให้บริการเชิงรุกในชุมชน ควบคุมไปกับการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก Active Case Finding เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีฐานข้อมูลที่ละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลรายงานสถานการณ์การติดเชื้อในกลุ่มเด็กนักเรียนสังกัดกทม. ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม-4 กรกฎาคม 2565 จากนักเรียนทั้งหมด 253,515 คน พบติดเชื้อ 0.74 % แบ่งเป็น

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช
  • นักเรียนระดับอนุบาล จำนวน 36,854 คน ติดเชื้อ 148 คน คิดเป็น 0.40 %
  • นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 176,496 คน ติดเชื้อ 1,375 คน คิดเป็น 0.78%
  • นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 35,706 คน ติดเชื้อ 304 คน คิดเป็น 0.85%
  • นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 4,459 คน ติดเชื้อ 58 คน คิดเป็น 1.30 %

กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินมาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม ดังนี้

6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 

  • เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร (Distancing)
  • สวมหน้ากาก(Mask wearing)
  • ล้างมือ(Hand washing)
  • ตรวจคัดกรอง(Testing)
  • ลดแออัด(Reducing)
  • ทำความสะอาด (Cleaning)

6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) 

  • ดูแลตนเอง (Self-care)
  • ใช้ช้อนส้อมส่วนตัว (My Spoon)
  • ทานอาหารปรุงสุกใหม่ (Eating)
  • ลงทะเบียนเข้า-ออก (Tracking)
  • สำรวจตรวจสอบ อาการตนเอง(Self check)
  • กักกันตนเองหากติดเชื้อ (Isolation)

7 มาตรการเข้ม

  • ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผลผ่าน MOECOVID
  • ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble) หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน
  • จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ
  • อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน (การระบายอากาศ การจัดการขยะ)
  • แผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึงการเตรียมพร้อม School Isolation
  • ควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออกสถานศึกษา
  • School Pass สำหรับนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา (ข้อมูล TST ผลการตรวจคัดกรองเชื้อ ประวัติการรับวัคซีน)

วัคซีน1

นอกจากนี้ ยังเน้นการเฝ้าระวังสถานบริการพักฟื้นผู้สูงอายุ หากพบการระบาดจะใช้วิธี Bubble Seal หากทำได้ หรือใช้วิธีการส่งต่อ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อาศัยร่วมกับกลุ่ม 608 หรือเป็นกลุ่ม 608 สวมหน้ากากอนามัยให้มากที่สุด หากมีข้อสงสัยว่ามีอาการให้รีบกักตัวเอง และไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ณ หน่วยบริการใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo