กระทรวงสาธารณสุข พัฒนา 2 ฟังก์ชันใหม่ใน “หมอพร้อม” ทั้ง ประเมินภาวะลองโควิด และตรวจสุขภาพใจ รุกสู่ Digital Health Platform ของไทย
นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้พัฒนาและเปิดตัวฟังก์ชัน ประเมินภาวะลองโควิด และ ตรวจสุขภาพใจ บนแพลตฟอร์ม หมอพร้อม เพื่อให้แพลตฟอร์มหมอพร้อมมีความสมบูรณ์ และบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเป็น Digital Health Platform ของประเทศไทย
ปัจจุบัน มีการให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 การตรวจหาเชื้อโควิด-19 การออกเอกสารรับรองโควิดตามมาตรฐานสหภาพยุโรป และการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล เป็นต้น และจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ผู้ป่วยหลายคนที่รักษาหายแล้วยังเผชิญกับอาการป่วยจากโควิด-19 ที่หลงเหลืออยู่หรือ ลองโควิด ขณะที่บางส่วนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ
ดังนั้น จึงพัฒนาฟังก์ชันในหมอพร้อมเพิ่มเติมอีก 2 ฟังก์ชัน ได้แก่
1. กรมการแพทย์ พัฒนาฟังก์ชัน ประเมินลองโควิด พร้อมชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภาวะลองโควิดสำหรับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะลองโควิด วิธีเตรียมรับมือ และแนวทางการดูแลตนเอง
2. กรมสุขภาพจิต พัฒนาฟังก์ชัน ตรวจสุขภาพใจ เพื่อเป็นเครื่องมือประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น และคัดกรองความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19
สำหรับทั้ง 2 ฟังก์ชันนี้จะให้บริการบนแพลตฟอร์มของหมอพร้อม ทั้ง LINE OA, แอปพลิเคชัน และเฟซบุ๊ก
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ได้พัฒนาชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับลองโควิด เพื่อเป็นคำแนะนำการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้วแต่ยังมีอาการหลงเหลืออยู่
พร้อมกันนี้ ได้พัฒนาแบบประเมินสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป และมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นลองโควิด อาทิ ผมร่วง เจ็บหน้าอก ใจสั่น อ่อนเพลีย เหนื่อยเรื้อรัง ไอเรื้อรัง สมองล้า ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใด นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า ฯลฯ
ฟังก์ชันดังกล่าว จะสามารถประเมินลองโควิดเบื้องต้นด้วยตนเองผ่าน หมอพร้อม Chatbot โดยระบบจะประเมินระดับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง จะช่วยให้ประชาชนทราบถึงอาการผิดปกติและความรุนแรงหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษาโรคโควิด-19
หากพบว่ามีอาการรุนแรง จะแนะนำให้ประเมินซ้ำอีกในระยะเวลา 3 เดือนหลังจากวันที่ตรวจพบเชื้อ เพื่อติดตามอาการ และหากอาการดังกล่าวกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก ควรพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อขอรับคำปรึกษาและรับการตรวจรักษาเพิ่มเติม
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิตร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม (UTC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาระบบ DMIND ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่จะช่วยประเมินและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต จากการสัมภาษณ์พร้อมใช้ข้อมูลใบหน้า เสียง และข้อความ
จากนั้นจะประเมินด้วยระบบ AI พร้อมให้คำแนะนำด้วยชุดข้อมูลความรู้ และเชื่อมโยงระบบกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือสำหรับกลุ่มเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิตในระดับปานกลางและกลุ่มเสี่ยงระดับสูง
ระบบ DMIND จะเชื่อมระบบกับ หมอพร้อม บนฟังก์ชันตรวจสุขภาพใจ ซึ่งประชาชนสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชันได้บนหมอพร้อมแชทบอท หรือที่เมนูบริการอื่นๆ หรือเข้าถึงผ่านลิงก์ได้ที่ https://bit.ly/DMIND11
นอกจากนี้ ยังสามารถเข้ามาศึกษาความรู้สุขภาพจิตด้วยตนเองได้ โดยชุดข้อมูลประกอบด้วยหมวดความรู้ต่างๆ ประกอบด้วย เครียด ซึมเศร้า เสี่ยงฆ่าตัวตาย ภาวะหมดไฟ การเติมพลังใจ วิธีดูแลจิตใจเมื่อสูญเสียคนรัก และการฟื้นฟูสุขภาพและป้องกันอาการ Post COVID เป็นต้น รวมถึงสามารถปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพจิตที่เบอร์ 1323 ได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 8 คำเตือนผู้ปกครองดูแลเด็กเล็ก อดใจรอวัคซีน ‘ดร.สันต์’ คาดคนติดโอไมครอนวันละ 3-5 หมื่นราย
- ทางเลือกผู้ป่วยสีเขียว เจอ แจก จบ ผ่านแอป SPRING UP พบหมอออนไลน์-ส่งยาถึงบ้าน
- คลินิก-ร้านยา-รพ.เอกชน ลงทะเบียน เพื่อออก ‘ใบรับรองสุขภาพดิจิทัล’ ผ่าน ‘หมอพร้อม’ ได้แล้ว