“อนุทิน” ระดมความเห็นภาคธุรกิจขับเคลื่อน “ท่องเที่ยว-เดินทาง” ปลอดภัย หลังโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน Thailand Moving Together : กอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตใกล้ชิดอีกครั้ง โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและคมนาคมเข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นระยะเวลากว่า 2 ปีที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยว-เดินทางของประเทศไทย ต้องเผชิญกับความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 และการปิดประเทศ
ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหามาตรการต่าง ๆ ให้เกิดสมดุลระหว่างการควบคุมป้องกันโรค และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ซึ่งต้องขอบคุณความร่วมมือของประชาชน และผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ทำให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถเสนอมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกมาตรการเข้าประเทศรูปแบบ Test & Go นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้เสรี ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น เริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด 19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยเชิญตัวแทนสมาคมด้านการท่องเที่ยวรวม 22 สมาคม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและวางแผนร่วมกัน ในการจัดทำมาตรการสาธารณสุขต่าง ๆ เสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป
จากการรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้น พบว่า ตัวแทนทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ ต่างแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันเสนอแนวทางเพื่อพาประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤติบนความปลอดภัยของประชาชน กระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ปลดล็อกมาตรการที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นต่อไป
ในส่วนของผู้ประกอบการ ต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แจ้งแผนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมและปรับตัวได้ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกและรวดเร็ว และให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ออกมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ และออกคำแนะนำประชาชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมความพร้อมระบบการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ ได้แก่ เตียงพอ ยาพอ และหมอพอ มีการสำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคลไว้อย่างพอเพียงในการรับมือกับการระบาดซ้ำ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการทางสังคมมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ คือ ต้องเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการ 2 U คือ Universal Prevention และ Universal Vaccination
การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนี้ ขอให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการระบาดซ้ำของโควิด หากได้รับวัคซีนตามคำแนะนำ แม้ว่าติดเชื้อก็จะไม่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต
กระทรวงสาธารณสุข ใช้แนวคิดการทำงานคือ HEALTH FOR WEALTH ใช้ระบบสาธารณสุขพัฒนาประเทศไทยให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแรง โดยไม่ได้มองเพียงมิติเดียว แต่มองไกลไปถึงว่า ระบบสุขภาพของไทยมีส่วนกระตุ้นและสนับสนุนธุรกิจการค้าการลงทุนต่าง ๆ
พร้อมกันนี้ จะเน้นหน้าพัฒนาให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพของโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Health Tourism และกระทรวงสาธารณสุข เพราะเชื่อว่า การพัฒนาสุขภาพให้ดี จะส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมดีตามมา คนไทยต้องปลอดภัยสาธารณสุขไทยรับประกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชัชชาติ เล็งจัด ‘ถนนคนเดิน’ กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่อเปิด 30 จุดไฟเขียวหาบเร่แผงลอย
- พรุ่งนี้ฟังข่าวดี!! ศบค. จ่อประกาศปรับพื้นที่โควิดเป็นสีเขียวทั้งประเทศ
- ‘หมอยง’ เปิดแนวทางฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพิ่มภูมิต้านทานโควิด เชื่อต้องฉีดทุกปีเหมือนไข้หวัดใหญ่