“หมอธีระ” เผยสถานการณ์โควิดทั่วโลก ล่าสุดติดเชื้อ 531,543,390 คน เสียชีวิตรวม 6,310,708 คน อัพเดทสายพันธุ์ BA.2.12.1-BA.4-BA.5 ในสหรัฐ เตือนการระบาดมีโอกาสปะทุขึ้นมาได้!!
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 314,655 คน ตายเพิ่ม 442 คน รวมแล้วติดไป 531,543,390 คน เสียชีวิตรวม 6,310,708 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 84.69% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 87.1%
การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็น 69.55% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 55.2%
…สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนติดเชื้อเมื่อวาน รวม ATK ของไทย สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ถึงแม้ สธ. ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 9.83% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
…อัพเดตสายพันธุ์ BA.2.12.1 BA.4 และ BA.5 ในอเมริกา
วันก่อน Bedford T, FHCRC ประเทศสหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่า สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 มีโอกาสที่จะทำให้ระบาดปะทุขึ้นมาได้จากสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน (breakthrough infection) และการทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำแม้เคยติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้ามาก่อน (reinfection)
…ผลกระทบระยะยาวต่อสังคม
การระบาดที่กระจายไปทั่วและไม่สามารถจัดการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ผ่านมานั้น จะส่งผลระยะยาวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การติดเชื้อไปอย่างต่อเนื่อง โดยวัคซีนนั้นจะช่วยป้องกันการป่วยหนักและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ แต่ไม่ได้การันตีผล 100% มากน้อยขึ้นอยุ๋กับชนิดของวัคซีนที่ได้รับ
นอกจากนี้ Long COVID หรือภาวะผิดปกติระยะยาวก็มีโอกาสเกิดขึ้น โดยยังไม่มีวิธีรักษาและวิธีป้องกันอย่างจำเพาะเจาะจง ยกเว้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ
หากติดตามความเป็นไปตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา เปรียบเหมือน interplay ระหว่างสถานการณ์ระบาด ความรู้ นโยบาย และการเมือง ซึ่งสุดท้ายแล้วการตัดสินใจเดินเส้นทางต่าง ๆ นั้น บางเส้นทางก็จะเป็นทางที่มีแต่ทางไป ไม่มีทางหวนกลับ
การเตรียมรับมือผลกระทบระยะยาวต่อสังคมเป็นเรื่องสำคัญของทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อให้สามารถประคับประคองให้อยู่รอดปลอดภัย ผ่านพ้นวิกฤติไปตามสมควร
ณ จุดปัจจุบัน หลายประเทศตกอยู่ในลักษณะ A train with no return จึงจำเป็นต้องมองในลักษณะแพ็คเกจนโยบาย Save who can be saved เพื่อปกป้อง ป้องกันคนจำนวนมากที่ยังรอดปลอดภัยจากความเสี่ยงที่มีในสังคม และนโยบายช่วยเหลือ สนับสนุนแก่คนจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสเกิดผลกระทบในระยะยาว
ไม่ใช่แค่เรื่องโรคระบาดโควิด-19 เท่านั้น เรื่องปลดล็อคกัญชาก็เช่นกันที่มีบทเรียนต่างประเทศชี้ให้เห็น negative externalities ในระยะยาว ทั้งเรื่องอุบัติเหตุจราจร รวมถึงปัญหาด้านสังคมอื่น ๆ
…สำหรับไทยเรา
ย้ำอีกครั้งว่า การใส่หน้ากากเสมอเวลาออกไปใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ ลั่นยังไม่ใช่เวลาที่จะถอดหน้ากาก ย้ำ! โควิดไม่ได้จบที่หาย ติดแล้วป่วยได้ ตายได้
- ‘หมอธีระ’ ย้ำ! Long COVID อันตราย ไม่ได้จบแค่หายหรือตาย เสี่ยงผิดปกติระยะยาว
- ‘หมอธีระ’ เตือน Long COVID กระทบทั่วร่างกายทุกระบบ ย้ำ! ใส่หน้ากากสำคัญมาก