COVID-19

‘หมอธีระ’ แนะ ‘4 แนวทาง อยู่ร่วมกับโควิด’ ในวันที่ยอดติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 521 ล้านราย

“หมอธีระ” โพสต์เฟซบุ๊ก แนะ 4 ข้อ ในการใช้ชีวิต “อยู่ร่วมกับโควิด” ต้องรู้เท่าทัน และประเมินความเสี่ยงในการใช้ชีวิต เตือน อัตราเสียชีวิตไทยยังสูง พุ่งเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 3 ของโลก

วันนี้ (16 พ.ค.) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thira Woratanarat กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด โดยระบุว่า 

อยู่ร่วมกับโควิด

ทะลุ 521 ล้านไปแล้ว

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 310,275 คน ตายเพิ่ม 532 คน รวมแล้วติดไปรวม 521,144,746 คน เสียชีวิตรวม 6,288,226 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิตาลี และเกาหลีใต้

เมื่อวานนี้ จำนวนติดเชื้อใหม่ มีประเทศจากยุโรป และเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย และยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 71.72 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 76.31

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้น คิดเป็นร้อยละ 49.25 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 35.15

สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า เมื่อวานนี้ จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ถึงแม้กระทรวงสาธารณสุข จะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา จนทำให้จำนวนเสียชีวิตที่รายงานนั้นลดลงก็ตาม

ทั้งนี้ จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวาน คิดเป็น 27.27% ของการเสียชีวิตทั้งหมด ที่รายงานของทวีปเอเชีย

อยู่ร่วมกับโควิด

เปรียบเทียบเรื่องการเสียชีวิต

ณ ปัจจุบัน จำนวนเสียชีวิตรายวันต่อประชากรล้านคนของไทยเรานั้น ยังมีอัตราเฉลี่ยรอบสัปดาห์ (7 days rolling average) ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก และทวีปเอเชีย หากเทียบกับกลุ่มประเทศ upper middle income แล้ว เรายังสูงกว่า

อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินจากทุกสาเหตุ (excess mortality rate) ณ 1 พฤษภาคม 2565 เปรียบเทียบกับปีก่อนหน้ามีการระบาด จะพบว่ายังสูงถึง 21%

อยู่ร่วมกับโควิด

การอยู่ร่วมกับโควิด-19 

1. ควรอยู่อย่างรู้เท่าทัน ใช้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม เพื่อให้ตนเองและครอบครัวมีสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิต

2. ประเมินความเสี่ยงในการใช้ชีวิต เลือกรับความเสี่ยงที่อยู่ในวิสัยที่ตนเองรับได้และจัดการได้ โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่คนใกล้ชิด และคนอื่นในสังคม

3. ไม่หลงงมงาย แสร้งว่าสงครามโรคจบแล้ว ทั้งที่ไม่จบ

4. ไม่ว่าพื้นที่ใด ที่ไม่สามารถจัดการควบคุมป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ย่อมส่งผลให้มีการระบาดที่รุนแรง ยาวนาน กระจายทั่วไปจนจับต้นชนปลาย หาต้นเหตุได้ยากนั้น สะท้อนถึงการที่พื้นที่ต่างๆ เป็นแดนดงโรค เป็นพื้นที่โรคชุกชุม ประจำถิ่นไปโดยปริยายแล้ว หาทางกำจัดออกไปได้ยาก

5. โรคประจำถิ่น ไม่ได้แปลว่าไม่อันตราย ไม่รุนแรง หรือกลายเป็นหวัดธรรมดา มีมากมายหลายโรคที่ประจำถิ่นทั่วโลก แต่ทำให้ป่วยหนัก เสียชีวิตได้มาก

“Please choose prudently to live with certain risks, but do not pretend the threat is gone”

เลือกดำรงชีวิตอย่างรู้เท่าทัน แต่อย่าเสแสร้งทำเป็นหลอกตัวเองว่าปลอดภัยไร้กังวล

ส่วนตัวแล้ว แนะนำว่าการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญ ในการประคับประคองให้อยู่รอด ลดความเสี่ยงในการดำรงชีวิตประจำวัน จนกว่าสถานการณ์ทั่วโลกจะดีขึ้น

โควิด ไม่จบแค่หาย แต่ป่วยได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo