COVID-19

ศูนย์จีโนมฯ ห่วงโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4-BA.5-B.2.12.1 ทำระบาดระลอกใหม่

ศูนย์จีโนมฯ จับตา 3 สายพันธุ์ย่อยโอไมครอน BA.4-BA.5-B.2.12.1 ทำโควิดระบาดระลอกใหม่

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ชี้การระบาดระลอกใหม่ ไม่จำเป็นต้องเกิดจากสายพันธุ์ใหม่ แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากสายพันธุ์ย่อย โดยเฉพาะ BA.4-BA.5-B.2.12.1 โดยระบุว่า

ระบาดระลอกใหม่

การระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา-2019 หากมีขึ้น ไม่จำเป็นต้องเกิดจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) เสมอไป แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย (Omicron sub-variant) ที่อุบัติขึ้นมา

ตัวอย่างของสายพันธุ์หลัก อัลฟา เบตา แกมมา เดลตา โอไมครอน

ตัวอย่างของสายพันธุ์ย่อย โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.2, BA.2.12.1,BA.4,และ BA.5 เป็นต้น

หากดูภาพรวมทั้งโลกขณะนี้ (2/5/2565) จะพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตลดลง

ภาพ1
(ภาพ1)

ภาพรวมของประเทศไทยหลังสงกรานต์พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตค่อยๆลดลงเช่นกัน อันเนื่องจากมาประชาชนให้ความร่วมมือดีในการฉีดวัคซีนครบโดสบวกเข็มกระตุ้นและการ์ดไม่ตก

โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางกายภาพ และการสวมหน้ากากอนามัย รวมไปถึงการตรวจ ATK ด้วยตนเอง

ภาพ2โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยในประเทศไทย BA.1 สูญพันธุ์ไปเรียบร้อย BA.2 ค่อย ๆ ลดจำนวนลง มีความเป็นไปสูงที่ประเทศไทยสามารถเข้าสู่โหมด โรคประจำถิ่น ที่สาธารณสุขไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ในเร็ววัน

จากการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของบรรดาไวรัสโคโรนา 2019 ที่ระบาดทั่วโลกยังไม่ปรากฏพบไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) ที่แตกต่างไปจากโอไมครอน

มนุษย์มีความเบื่อหน่ายกับการอยู่ร่วมกับโควิดเป็นอย่างมาก อยากให้กลายเป็นโรคประจำถิ่น และสามารถกำจัดให้หมดไปได้โดยไว ไม่ว่าจะด้วยวัคซีนหรือยาต้านไวรัส เหมือนกับที่เราทำสำเร็จมาแล้วในกรณีของไวรัสไข้ทรพิษ (variola virus) ไวรัสโปลิโอ(poliovirus) และไวรัสหัด(measles virus)

แต่ไวรัสโคโรนา 2019 ก็พัฒนาตัวเองเพื่อจะอยู่ร่วมกับเราตลอดไป การระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา 2019 หรือในประเทศในคือระลอกที่ 6 นั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) ที่แตกต่างไปจากโอไมครอนเสมอไป

เพราะโอไมครอนเองได้แสดงให้เราเห็นว่า สามารถวิวัฒนาการเกิดเป็นสายพันธุ์ย่อย (Omicron sub-variant) ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยการกลายพันธุ์เพียง 1-2 ตำแหน่งบนยีนที่สร้างส่วนหนามแหลม (spike/S gene) ซึ่งเพิ่มความสามารถในการระบาดระหว่างคนสู่คนได้เร็วกว่า และเข้ามาแทนที่สายพันธุ์ดั้งเดิม สามารถลดประสิทธิภาพของวัคซีนและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้

อย่างเช่น โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังเพิ่มจำนวนเข้ามาแทนที่ BA.2 ในประเทศแอฟริกาใต้ หรือ BA.2.12.1 กำลังเพิ่มจำนวนเข้ามาแทนที่ BA.2 ในประเทศ
สหรัฐอเมริกา

แต่หากสังเกตให้ดีอาการความรุนแรงในการก่อโรคไม่ได้เพิ่มขึ้น จำนวนผู้เจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตมิได้เพิ่มขึ้น ผู้ติดเชื้อ BA.4, BA.5 หรือ BA.2.12.1 ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยเช่นเดียวกับโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้องค์การอนามัยโลกยังคงจัดไวรัสกลายพันธุ์เหล่านี้ให้เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอน มิได้แยกกลุ่มตั้งชื่อใหม่

องค์การอนามัยโลก ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐ อังกฤษ และยุโรป กำลังจับตามองโอไมครอนสามสายพันธุ์ย่อย BA.4, BA.5 ที่เริ่มระบาดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศแอฟริกาใต้ และ BA.2.12.1 ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

การเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนบนหนามของไวรัสเพียงตำแหน่งเดียวของ BA.4 และ BA.5 ณ. ตำแหน่ง “L542R” สามารถส่งเสริมการแพร่ระบาดได้เหนือกว่า BA.2 ถึง 63-84%
ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนบนหนามเพียงตำแหน่งเดียวของ B.2.12.1 ณ. ตำแหน่ง L452Q ก็สามารถส่งผลให้ BA.2.12.1 สามารถแพร่ระบาดได้เหนือกว่า BA.2  ถึง 96%

ภาพ3

BA.4 – จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมพบว่ามีความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนเทียบกับสายพันธุ์อื่นในประเทศแอฟริกาใต้ประมาณ 46%

BA.5 – จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมพบว่ามีความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนเทียบกับสายพันธุ์อื่นในประเทศแอฟริกาใต้ประมาณ 60%

BA.2.12.1 – จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมพบว่ามีความได้เปรียบในการเพิ่มจำนวนเทียบกับสายพันธุ์อื่นในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 72%

จะเห็นได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่โอไมครอน 3 สายพันธุ์ย่อย (3 new sub-variant) กล่าวคือ BA.4 และ BA.5 อาจก่อให้เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ในแอฟริกาใต้

ส่วน BA.2.12.1 อาจก่อให้การระบาดระลอกใหม่ในสหรัฐอเมริกา จากนั้นอาจมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ (new variant) ที่แตกต่างจากโอไมครอนอุบัติขึ้นมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo