COVID-19

‘หมอนิธิพัฒน์’ เชื่อโควิดหลังสงกรานต์ แค่น้ำกระเพื่อม เขื่อนไม่แตก ด้วยสาเหตุนี้

“หมอนิธิพัฒน์” เปิด 3 เหตุผล ที่ทำให้เชื่อว่า โควิดหลังสงกรานต์ จะไม่เขื่อนแตก แต่เป็นแค่แรงกระเพื่อม ผลจากภูมิคุ้มกัน

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล มองสถานการณ์โควิดหลังสงกรานต์ เป็นแค่น้ำกระเพื่อม ไม่เจอเขื่อนแตกยอดพุ่ง โดยระบุว่า

โควิดหลังสงกรานต์

สถิติวันนี้ยอดผู้ป่วยหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิต ยังทรงตัวต่อเป็นวันที่ 8

มีสองแนวคิดว่าช่วงสงกรานต์จะเกิดเขื่อนแตกใหม่ กับที่ผมคาดหวังคือน่าจะแค่น้ำกระเพื่อมเล็กน้อย เนื่องจากเหตุผลสามประการ

1. รอบเดลตาจนมาถึงรอบโอไมครอนนี้ คนไทยอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปน่าจะมีภูมิคุ้มกันต่อโควิดเกินครึ่งประเทศแล้ว ทั้งสองแรงนี้ได้มาจากการฉีดวัคซีนได้มาก ผนวกกับการติดเชื้อและการป่วยตามธรรมชาติ รวมทั้งถ้าได้วัคซีนด้วยติดเชื้อด้วยภูมิจะขึ้นดีมาก

เสียดายประเทศเราไม่มีการสุ่มตรวจภูมิในชุมชนตามบทความที่จะนำเสนอต่อไป

2. สังคมมีความตระหนักเพียงพอจากการให้ข้อมูลวงกว้าง เรื่องการนำเชื้อไปสู่สมาชิกครอบครัวที่เป็นกลุ่มเปราะบางและยังไม่ได้รับวัคซีนหรือยังได้ไม่ครบ คนในวัยทำงานที่เดินทางเคลื่อนย้ายช่วงสงกรานต์น่าจะพยายามระวังตัวในข้อนี้

1 3

3. เป็นแบ็คอัพให้ข้อสอง กลุ่มคนที่เดินทางนั้นน่าจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือไม่ก็ติดเชื้อกันมากแล้ว จึงน่าจะมีโอกาสแพร่เชื้อได้น้อยกว่าเมื่อต้นปีนี้มาก และน้อยกว่าช่วงเขื่อนแตกระหว่างสงกรานต์ปีที่แล้ว

แต่ทั้งนี้ยังต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามมาตรการที่ทุกฝ่ายกำลังรณรงค์กันอยู่ เน้นคุมเข้มกิจกรรมเสี่ยงโดยเฉพาะการรวมกลุ่มจำนวนมาก โดยไม่ใส่หรือใส่หน้ากากไม่เหมาะสม และที่สำคัญมีการกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ร่วมกัน

ถอดบทเรียนจากประเทศแอฟริกาใต้ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดโอไมครอน บ้านเขาผ่านการระบาดมาสามระลอกดังรูป ก่อนเข้าสู่ระลอกสี่จากโอไมครอน

การสำรวจภูมิคุ้มกันของประชาชน 7,010 คนในเขต Gauteng ที่รายงานผู้ป่วยโอไมครอนครั้งแรกในโลก เขตนี้ประกอบด้วยห้าเมืองใหญ่ รวมทั้งโจฮันเนสเบิร์กที่เป็นเมืองหลวงด้วย ขณะที่สำรวจมีคนฉีดวัคซีนไปเพียง 18.8%

ผลการศึกษาพบว่า เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปีมีภูมิคุ้มกันแล้ว 56.2% แต่ถ้าเป็นเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่จะมีภูมิแล้วราว 74% ถึง 80% โดยถ้าเป็นคนฉีดวัคซีนแล้วจะมีภูมิถึง 93.1% แต่ถ้าไม่ได้ฉีดจะมี 68.4%

2 แอฟริกา

ผลจากการมีภูมิอยู่เองก่อน จากระลอกเดลตาร่วมกับผลจากวัคซีน ทำให้ระลอกโอไมครอนเขามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วภายในหนึ่งเดือน แล้วลงอย่างรวดเร็วเช่นกันดังรูป รวมถึงจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต ก็คิดเป็นสัดส่วนต่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยกว่าช่วงเดลตามากมาย

ที่น่าสนใจคือ คนที่ยังสูบบุหรี่ประจำ และคนกลุ่มเปราะบาง จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นน้อยกว่า

https://www.nejm.org/doi/pdf/10.1056/NEJMoa2119658…

หากสมมติฐานผมถูกต้อง นโยบายควบคุมโควิดบ้านเรา กำลังเดินมาในทิศทางที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศแล้ว

สงกรานต์นี้ถ้าร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ผ่อนคลายกายและใจกันอย่างระมัดระวังหลังตรากตรำงานหนักมานาน ใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์และวันปีใหม่ไทยแต่โบราณ เตรียมเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านโควิดเป็นโรคประจำถิ่นกันอย่างมีสติและมีปัญญาเป็นเครื่องชี้นำ

อย่าลืมเร่งไปฉีดวัคซีนเข็มพื้นฐานและเข็มกระตุ้น ประโยชน์ในสถานการณ์ขณะนี้มีมากกว่าโทษทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ตามที่ 5 องค์กรวิชาชีพผนึกกำลังกันรณรงค์ดังรูป

3 องค์การวิชาชีพ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo