สธ. อัพเดทแนวทางฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ทุกกลุ่ม ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ คนเคยติดเชื้อโควิด เร่งฉีดบูสเตอร์ผู้สูงอายุก่อนสงกรานต์
นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบ และให้คำแนะนำเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยปรับแผนการฉีด ดังนี้
แนวทางฉีดวัคซีนเข็มกระะตุ้น
ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 2 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทุกสูตร
- แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 3 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
ทั้งนี้ กรณีฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ สามารถฉีดขนาดครึ่งโดส ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน โดยมีข้อมูลการศึกษาในผู้ใหญ่ที่แข็งแรงดีว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี แต่ไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเด็ก
เด็กอายุ 12-17 ปี (คำแนะนำใหม่)
ให้เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็มที่ 3 ขนาดโดสมาตรฐาน โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลาตั้งแต่ 4-6 เดือนขึ้นไป
ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำกับองค์การอนามัยโลก และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด-19
- แนะนำให้วัคซีนโควิดในผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิดได้ ตามหลักการเดียวกับผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน โดยให้วัคซีนหลังจากการติดเชื้อ เป็นเวลา 3 เดือน
ผู้สูงอายุ
- สั่งการไปยัง สสจ.ทุกจังหวัดในการเร่งรัดค้นหาผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
- เป้าหมายผู้ที่ถึงกำหนดการฉีดเข็มกระตุ้น ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70% ก่อนจะถึงสงกรานต์
จากข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค.2565 ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนแล้ว 127 ล้านโดส ฉีดเข็มที่ 1 แล้วกว่า 54 ล้านคน คิดเป็น 78.9% ส่วนเข็มที่ 2 ฉีดแล้วกว่า 50 ล้านคน คิดเป็น 72.1% ส่วนเข็มที่ 3 หรือเข็มกระตุ้นฉีดแล้วกว่า 22 ล้านคน คิดเป็น 32.2%
สำหรับผลการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายหลัก อย่างผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 10 ล้านคน ส่วนเข็มที่ 2 ฉีดไปแล้วราว 10 ล้านคนเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งฉีดเข็มกระตุ้น ซึ่งฉีดไปแล้ว 4.2 ล้านคน
ส่วนกลุ่มเด็กเล็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็ม 1 แล้ว 1.7 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ในส่วนเข็มกระตุ้นเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผลมาจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายหลัก
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญการฉีดวัคซีนเป็นเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยผู้สูงอายุมีความเสี่ยงการติดเชื้อและเสียชีวิตกว่ากลุ่มอื่น และผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
การเร่งรัดการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข และศบค. ซึ่งต้องย้ำว่า การฉีดวัคซีนสำหรับเข็มกระตุ้นจะลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ 41 เท่า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด อยู่ต่างจังหวัด รวมไว้ทุกสิทธิ ติดต่อที่ไหน เช็คเลย
- Save ญาติผู้ใหญ่ในบ้าน ‘นนท์ booster’ เปิดวอล์ก-อินฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้น 3-4
- WHO เปิด 5 สาเหตุหลัก ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้น
