COVID-19

ติดโควิดควรรู้ เทียบประสิทธิภาพยารักษาโควิด 4 ยี่ห้อ เหมาะกับผู้ติดเชื้อกลุ่มไหน

ผู้ติดเชื้อโควิดควรรู้ เทียบข้อดีข้อเสีย ยารักษาโควิด-19 ทั้ง 4 ยี่ห้อ “ฟาวิพิราเวียร์-เรมเดซิเวียร์-โมลนูพิราเวียร์-แพกซ์โลวิด”

หลังจากเริ่มมีความเคลื่อนไหว และข้อมูลที่ระบุว่า การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในผู้ป่วยโควิด-19 อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง รวมทั้งไม่มีข้อมูลจากการศึกษายืนยันว่า ฟาวิพิราเวียร์ สามารถลดการป่วยหนัก และเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้

ยารักษาโควิด

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรมควบคุมโรค ออกมายืนยันถึงประโยชน์ของการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า จากการศึกษาเบื้องต้น และจากประสบการณ์การรักษาของแพทย์ พบว่า ยานี้ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง รักษาแต่เนิ่น ๆ โอกาสอาการกลับไปรุนแรงก็ลดลง

ขณะที่ นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์ได้เปรียบเทียบ 4 ยารักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ ฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด แต่ละตัวมีข้อดีข้อเสีย

เทียบประสิทธิภาพยารักษาโควิด 4 ยี่ห้อ

ยาฟาวิพิราเวียร์

กรณียาฟาวิพิราเวียร์ มีการใช้มา 2 ปี ในช่วงแรกศึกษาข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งกลไลการออกฤทธิ์ เป็นการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ RNA ไวรัส ทำให้เชื้อไวรัสเปลี่ยนแปลงไป

จากการทบทวนอย่างเป็นระบบ ข้อมูลล่าสุดพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ มีอาการดีขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ โดยเฉพาะใน 14 วันสัดส่วนอาการดีขึ้นอยู่ที่ 86.9%

ยาเรมเดซิเวียร์

ยาเรมเดซิเวียร์ มีกลไกการออกฤทธิ์ตำแหน่งเดียวกับฟาวิพิราเวียร์ US FDA ได้ให้การรับรองใช้ยาตัวนี้สำหรับการรักษาในภาวะฉุกเฉิน โดยให้ทางหลอดเลือดดำ ซึ่งมีประโยชน์กับคนไข้ที่ทานยาไม่ได้ มีปัญหาการดูดซึม และใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์

เมื่อศึกษาวิจัย พบว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น นอนรพ.ลดลง พบนอนรพ. 10 วัน ส่วนกลุ่มที่ได้รับยาหลอก นอนรพ. 15 วัน

เทียบยาโควิด

ยาโมลนูพิราเวียร์

ยาโมลนูพิราเวียร์ นำเข้ามาถึงไทยแล้ว อยู่ในกระบวนการเตรียมพร้อมกระจาย หลังได้รับการอนุมัติจากอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข และศบค. ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์จุดเดียวกัน และลดความเสี่ยงจะเกิดอาการรุนแรง

ขนาดยารับประทานสำหรับผู้ใหญ่ 800 มิลลิกรัม หรือ 4 แคปซูล โดยให้รับประทานทุก 12 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 วัน รวม 40 แคปซูลต่อคน ซึ่งยาตัวนี้ต้องให้ภายใน 5 วันหลังได้รับการวินิจฉัยเริ่มมีอาการ

ยาแพกซ์โลวิด

ยาแพกซ์โลวิด กลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกัน จะออกที่เอนไซม์ ทำให้เชื้อลดจำนวนลง ไม่สามารถเกิดโรคได้ ทำให้ลดความเสี่ยง 88%

กรณีให้ภายใน 5 วันหลังมีอาการ พบว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด ประเทศไทยจึงได้มีการสำรองยาตัวนี้ โดยกลางเดือนเม.ย.จะนำเข้า และกระจายในลำดับถัดไป

นพ.มานัสกล่าวว่า จากการติดตามการใช้ยามาระยะหนึ่ง จุดสำคัญพบว่า ยาแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เช่น เรมเดซิเวียร์ เป็นยาช่วยในกลุ่มที่มีอาการปานกลาง สามารถให้ได้ทางหลอดเลือดดำ และหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งกลุ่มมีปัญหาการดูดซึมหรือการทาน

ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ยังมีประโยชน์ และให้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 2 และ 3

ขณะที่ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิดเป็นยารับประทาน เป็นยาใหม่ ไม่ให้ในหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo