COVID-19

‘ดร.สันต์’ มองโอไมครอนระบาดจีนรอบใหม่ ล็อกดาวน์เข้มแข็ง ไม่เกินเดือนครึ่งเอาอยู่

“ดร.สันต์” วิเคราะห์โอไมครอนระบาดจีนรอบใหม่ แต่ผลจากการล็อกดาวน์เข็มแข็ง คาดกดโควิดเป็นศูนย์ได้ภายในเดือนครึ่ง

ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท กรีนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Sunt Srianthumrong เรื่อง Covid-19 เหตุการณ์ที่ต้องบันทึกวันนี้ เมื่อจีนมีผู้เสียชีวิตจากโควิด เป็นคนแรกในรอบมากกว่า 1 ปี มองจีนไปข้างหน้า สถานการณ์น่าจะเป็นอย่างไร

โอไมครอนระบาดจีน

วันนี้ 19 มีนาคม 2565 จีนรายงานผู้เสียชีวิตจาก โอไมครอน 2 คน รวมเป็น 4,638 คน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี 52 วัน ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด

ผู้เสียชีวิตคนสุดท้ายก่อนหน้านี้ ต้องย้อนไปไกลถึงต้นปีที่แล้ว ในวันที่ 26 มกราคม 2564

และในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563 ที่มีผู้เสียชีวิตสะสม 4,632 จนถึงเมื่อวานนี้ 4,636 จีนมีผู้เสียชีวิตเพียง 4 คน โดยไม่มีวันใดที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 คนเลย

จีนเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากในการควบคุมโควิด และเศรษฐกิจในประเทศของจีน ก็ดีกว่าที่อื่นบนโลกมาก เนื่องจากการควบคุมการติดเชื้อได้สำเร็จนี้เอง

กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศของจีน สามารถทำได้เต็มศักยภาพ โดยแทบไม่ต้องมีข้อจำกัดจากมาตรการเปิด ๆ ปิด ๆ แบบที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีการระบาดหนัก

ดร.สันต์1

ข่าวดีที่จีน หลังโอไมครอนระบาดจีนรอบใหม่

ช่วงนี้แม้ว่าจีนจะกลับมาระบาดหนัก แต่การ ล็อกดาวน์ ที่เข้มแข็งทันที เริ่มเห็นแนวโน้มที่จีนจะควบคุมการติดเชื้อได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนเดิม และน่าจะลงสู่ Zero Covid ได้ภายในไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง

จำนวนผู้ติดเชื้อในรอบนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 50,000 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ในช่วง 200 -300 คน ซึ่งจะค่อนข้างเป็นสัดส่วนที่สูง เนื่องจากจีนใช้วัคซีนเชื้อตาย คนแก่ฉีดวัคซีนไม่มากพอ และยัง Boost ไปได้น้อยเหมือนฮ่องกง ซึ่งจะมีอัตราการเสียชีวิตจากโอไมครอน ถ้าเกิดการระบาดเป็นวงกว้างที่ 0.5%-0.6%

ถ้าจีนปรับมาใช้ mRNA เป็น Booster ได้ทัน อัตราการเสียชีวิตจะลดลงไปสู่ระดับ 0.2% หรือประมาณ 1 ใน 3 จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงเหลือประมาณ 80-100 คนเท่านั้น แต่คิดว่าไม่น่าจะ Boost ด้วย mRNA ได้ทันครับ

ถ้าไม่มีอะไรพลิกผันแบบเหลือเชื่อ จีนน่าจะเอาชนะโควิดได้อีกครั้งอย่างแน่นอน และเศรษฐกิจจีนก็จะกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo