สงกรานต์ 2565 ระทึก!! “หมออุดม” ชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ เตือนทางแยกสำคัญหากกดตัวเลขผู้ติดเชื้่อไม่ลง มีสิทธิ์พุ่งยาวถึงสิ้นปี ยันกระทรวงสาธารณสุข-รัฐบาลทำเต็มที่แล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า คงต้องผ่อนคลายมาตรการ และเราจะไม่ไปล็อกอะไรทั้งสิ้น เพราะสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมไทยที่สำคัญแต่ประชาชนต้องเข้าใจว่ายังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด จึงต้องระมัดระวังตัวเอง
วันนี้ผู้ติดเชื้อใหม่นิวไฮท์
สำหรับเทศกาลสงกรานต์ อยากย้ำว่า วันนี้ผู้ติดเชื้อใหม่นิวไฮท์ 2.7 หมื่นคน และเสียชีวิต 80 ราย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือสงกรานต์ปีนี้ แม้ขณะนี้จะไม่ติดเชื้อและเจ็บป่วยรุนแรง แต่เราก็ไม่อยากให้กลับไปเหมือนสงกรานต์ปี 2564 ที่ไม่ล็อกดาวน์ทำให้ตัวเลขสูงขึ้นมากลากยาวถึงสิ้นปี เราต้องการจะกดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ให้เพิ่มขึ้น เพราะตามการคาดการณ์กลางปีนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลงมาหลักพันต้น ๆ ตัวเลขไม่มีทางเป็นศูนย์ ประชาชนต้องช่วยกัน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลทำเต็มที่แล้ว ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 3 หมื่นรายต่อวัน วันนี้ติด 2.7 หมื่นตนคิดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เราไม่อยากให้ยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเลข 3 หลักเพราะจะถือว่าเยอะเกินไป
โควิดอาจลากยาวถึงสิ้นปี
“ขณะนี้เรามาถึงทางแยก ว่าจะให้การแพร่ระบาดโควิดสิ้นสุดกลางปี 2565 ตามที่เราทำนายไว้หรือไม่ แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือ เทศกาลสงกรานต์ หากเรากดตัวเลขไว้ไม่อยู่จนขึ้นไปสูง ก็จะลากยาวถึงสิ้นปี ทำให้การใช้ชีวิตลำบากและเศรษฐกิจไม่เดินหน้าดังนั้นประชาชนต้องให้ความร่วมมือ” นพ.อุดม กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 สิ่งที่อยากขอประชาชน คือ การรับวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากสถิติพบว่าผู้รับวัคซีน 2 เข็ม จะลดอัดตราการป่วยตายจากเชื้อโอมิครอนได้ 6 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีน และหากฉีดวัคซีนจะลดอัดตราการป่วยได้ถึง 41 เท่า เมื่อดูจากผู้เสียชีวิต 95-98% เป็นผู้มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว อีกทั้งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีถึง 60% ที่ไม่ได้รับวัคซีน และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัดเพราะเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข
อยากให้เก็บตัวอย่างน้อย 7 วัน
นอกจากนี้ ยังวิตกกังวลและลังเลจะฉีดวัคซีน และคิดว่าเชื้อไม่รุนแรงจึงอยากให้ประชาชนได้รับวัคซีน จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ปู่ย่าตายายที่อยู่ในต่างจังหวัด จะต้องฉีดวัคซีนก่อนที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยม และลูกหลานที่จะกลับไปเยี่ยมจะต้องฉีดเข็ม 3 อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง เพื่อให้ภูมิขึ้น นอกจากจะช่วยไม่ให้เชื้อเข้าตัว ยังช่วยป้องกันกระจายไปสู่คนรอบข้าง
ขณะเดียวกัน อยากให้เก็บตัวอย่างน้อย 7 วัน พยายามไม่ออกไปไหนเพื่อลดความเสี่ยง ให้ตัวสะอาดและป้องกันการรับเชื้อโดยไม่รู้ตัวไม่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์หรือกินข้าวกับคนอื่นเพราะปัจจุบันการติดเชื้อมาจากการกินข้าวกับเพื่อนฝูง
ทั้งนี้ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้มาก อีกทั้งอยากให้ตรวจ ATK ก่อนกลับภูมิลำเนา เพื่อตรวจสอบตัวเองว่าไม่ติดเชื้อ หากพบว่าติดเชื้อก็อย่ากลับ แม้ว่าจะไม่มีอาการก็ต้องกักตัว เพราะขณะนี้ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการระบาดมากขึ้นมาจากคนที่มีความเสี่ยงไม่ยอมกักตัวเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดวันนี้ 18 มี.ค. ทั่วโลกติดเชื้อ 466.47 ล้านคน ‘โมเดอร์นา’ ยื่นขออนุมัติ ‘อย.สหรัฐ’ ฉีดวัคซีนเข็ม 4 กลุ่มผู้ใหญ่
- ‘นายกรัฐมนตรี’ จี้บริษัทประกันภัยเร่งจ่ายเงินประกันโควิด อย่าซ้ำเติมประชาชน!
- ‘บิ๊กตู่’ นั่งหัวโต๊ะ! ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันนี้ ชงห้ามสาดน้ำสงกรานต์ ปรับโซนสีพื้นที่