COVID-19

‘ดร.อนันต์’ เปิดผลวิจัยพบ ‘โอไมครอน’ คงสภาพบน ‘พลาสติก-แก้ว’ ได้ถึง 7 วัน นานกว่าสายพันธุ์เดิม

“ดร.อนันต์” เปิดผลวิจัยฮ่องกง พบ “โอไมครอน” เกาะบน “สแตนเลส-พลาสติก-แก้ว” ได้นานถึง 7 วันในสภาวะความชื้น ติดได้นานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

วันนี้ (12 มี.ค.) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Anan Jongkaewwattana เล่าถึงงานวิจัยของฮ่องกง เกี่ยวกับไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ที่พบว่า มีความเสถียรบนพื้นผิวบางชนิด ได้นานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยระบุว่า

โอไมครอน

ผลการทดลองชิ้นนี้จากทีมวิจัยในฮ่องกงน่าสนใจครับ เปรียบเทียบความเสถียรของไวรัส (ความสามารถที่ไวรัสจะติดเชื้อต่อได้) บนพื้นผิวชนิดต่าง ๆ ระหว่างโอไมครอน กับ สายพันธุ์ดั้งเดิม

โอไมครอน มีความเสถียรบนพื้นผิว 3 ชนิดนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม 

ผลการทดลองชิ้นนี้บอกว่า ไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์ จะสูญเสียสภาพการติดเชื้อไประดับนึง (ประมาณ 10 เท่า) เกือบทันทีที่อยู่นอกร่างกาย และไปติดอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ แต่หลังจากนั้น จะเห็นความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์

โดยโอไมครอนมีแนวโน้มจะอยู่บนพื้นผิวอย่างน้อย 3 ชนิด คือ สแตนเลส พลาสติก และ แก้ว ที่ยาวนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ดูเหมือนว่าโอไมครอน จะคงสภาพบนพื้นผิวทั้ง 3 ได้นานถึง 7 วัน ในสภาวะความชื้น และ อุณหภูมิที่ทำการทดลองนี้ แต่บนพื้นผิวกระดาษไวรัสเสียสภาพไวกว่า และ อยู่ได้ไม่นานพอ ๆ กัน

การทดลองนี้ไม่ได้เปรียบเทียบไวรัสในสภาวะอยู่ในอากาศ หรือ aerosol ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โอไมครอนอาจจะอยู่ในอากาศได้นานกว่าปกติ ซึ่งอาจอธิบายความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสได้ไว และรวดเร็ว

ข้อสังเกตคือ การศึกษานี้ ใช้ปริมาณของละอองฝอยที่มีขนาด 5 ไมโครลิตร ซึ่งใหญ่กว่าละอองฝอยในธรรมชาติมาก ปริมาณไวรัสที่ใช้ก็ค่อนข้างสูง การสูญเสียสภาพของไวรัสประมาณ 10 เท่าหลังเกาะบนพื้นผิว อาจทำให้ละอองฝอยที่มีขนาดเล็กในสภาวะจริง อาจทำให้ไวรัสที่ติดออกมาลดลงไปจนไม่ไปต่อก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของละอองฝอยที่ปล่อยออกมา และ ปริมาณไวรัสที่ออกมาจากผู้ติดเชื้อ มักไม่สูงเหมือนที่ทำการทดลอง

โอไมครอน

การใส่หน้ากากอมามัย ก็จะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยลงไปได้อีก

ปัจจัยทั้งหมดนี้อาจจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยงครับ แต่การล้างมือบ่อย ๆ คงจำเป็นอยู่ดีครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo