COVID-19

เตือนผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนด่วน ห่วงติดโควิดจากลูกหลานช่วงสงกรานต์

สธ. เตือนผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีน ก่อนสงกรานต์ เพิ่มความปลอดภัยเมื่อลูกหลานกลับไปเยี่ยม เหตุอัตราเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดี กรมควบคุมโรค และ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวฉีดวัคซีนโควิด 19 ผู้สูงอายุก่อนสงกรานต์ ลูกหลานกลับบ้านสบายใจ และการปรับระบบ 1330 ลดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตกค้าง

ผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีน

นพ.โสภณ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอาจเป็นไปตามฉากทัศน์ที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 5 หมื่นรายในช่วงหลังสงกรานต์ แต่ทุกคนสามารถช่วยกันยกระดับมาตรการป้องกันเพื่อลดการติดเชื้อลงได้ โดยคาดว่าช่วงพฤษภาคม-มิถุนายนจะเป็นขาลงของการระบาด

ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก จะทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามมาได้

ทั้งนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยวันนี้พบเสียชีวิต 54 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่ได้รับวัคซีน

สำหรับผู้สูงอายุ มีการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราติดเชื้อเสียชีวิตเกือบ 3% อายุ 60-69 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.6% และอายุ 50-59 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.2%

สูงอายุ

 

จากข้อมูลพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ ช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สุงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีน

เตือนผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนก่อนสงกรานต์

ดังนั้น ในช่วง 1 เดือนเศษก่อนสงกรานต์ ที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัด ขอให้ผู้สูงอายุ 2.17 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมารับวัคซีนเข็มแรก หากฉีดเข็มแรกแล้วให้ฉีดเข็ม 2 ตามนัด และหากรับครบ 2 เข็มเกิน 3 เดือนให้รีบมารับเข็มกระตุ้น เพื่อให้สงกรานต์ปีนี้ ลูกหลานกลับไปเยี่ยมบ้านได้อย่างสบายใจ

ขณะที่ลูกหลานต้องฉีดวัคซีน และต้องป้องกันตนเองด้วยเช่นกัน เนื่องจากสงกรานต์ปีที่แล้ว หลายครอบครัวต้องสูญเสียผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจากลูกหลานที่กลับไปเยี่ยม

สูงวัย

 

ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวก สามารถติดต่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาผ่านสายด่วนต่างๆ ได้ โดยพื้นที่ กทม.ติดต่อสายด่วนประจำเขต 50 เขต หรือสายด่วน 1669 กด 2 ส่วนต่างจังหวัดมีสายด่วนประจำจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีเบอร์กลาง คือ สายด่วน สปสช. 1330 กด 14

อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาก ทำให้สายด่วน 1330 มีผู้โทรเข้ามาสูงถึง 70,300 สาย แต่ละสายใช้เวลาสอบถามประมาณ 7 นาที ทำให้ส่วนหนึ่งพบปัญหาสายไม่ว่างหรือไม่ได้รับสาย แม้จะขยายคู่สายจนเต็ม 3,000 คู่สาย และเพิ่มจำนวนผู้รับสายแล้วก็ตาม

ล่าสุด จึงเพิ่มช่องทางลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สปสช. หรือไลน์ @nhso รวมถึงรับสมัครจิตอาสาทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนมาช่วย

การเพิ่มผู้รับสายและเพิ่มบริการแบบผู้ป่วยนอก ทำให้จำนวนสายที่โทรเข้าสายด่วน 1330 ลดลงจาก 7 หมื่นสาย เหลือ 5.5 หมื่นสาย และอัตราไม่ได้รับสาย จากเดิมมีประมาณครึ่งหนึ่ง ลดลงเหลือไม่ถึง 1 ใน 4 คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo