“หมอนิธิพัฒน์” ชี้อยากรู้ตัวเลขผู้ติดเชื้อแท้จริง ต้องเอาผู้ป่วยยืนยัน คูณด้วย 4 ล่าสุดยังไม่ทะลุแนวต้าน วาดภาพจุดพีคโอไมครอนในไทย เหมือนภูกระดึง
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ถึงการหาตัวเลขตัวติดเชื้อแท้จริง และจุดพีคโอไมครอนในไทย โดยระบุว่า
แนวรับโอไมครอนประเทศไทยวันนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใครจะเชื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันเฉพาะ RT-PCR หรือ เชื่อการนับรวมผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK (ไม่รู้จะแยกไปทำไมให้หลอกตัวเอง)
ตัวเลขผู้ติดเชื้อแท้จริง ใช้ผูู้ป่วยยืนยัน คูณ 4
หรือ เอาแบบผมที่เชื่อว่าเอาผู้ป่วยยืนยันแล้วคูณด้วยสี่ (จากการเผื่อตรวจน้อย ตรวจแล้วไม่เข้าระบบรายงาน และติดเชื้อแต่เข้าไม่ถึงการตรวจ หรือขี้เกียจตรวจหรือไม่รู้ตัวว่าต้องตรวจ) ซึ่งน่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงของการติดเชื้อในชุมชนขณะนี้
แต่ตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจหลอกเราไม่ได้ เพราะผู้ป่วยปอดอักเสบทุกประเภททุกคนเมื่อเข้าโรงพยาบาลในระยะนี้ ต้องได้รับการตรวจ RT-PCR ทุกรายว่าเป็นจากโควิดหรือไม่
ในรายสงสัยมาก ยังมีการตรวจซ้ำถ้าผลครั้งแรกเป็นลบ ซึ่งตัวเลขนี้ล่าสุดยังไม่ทะลุแนวต้าน 1,000 รายไปได้ แม้ยอดผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจสะสมจะเพิ่มขึ้นช้า ๆ ต่อไปก่อน หรือเรากำลังเข้าสู่ช่วงพีคแล้ว
เพียงแต่พีคของประเทศไทย มีลักษณะจำเพาะ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เป็นแบบรูปทรงภูกระดึงแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนฝันใฝ่ เราจึงอาจต้องเดินพักผ่อนกันบนยอดที่ราบนี้กันอีกสักหนึ่งถึงสองสัปดาห์ จึงจะพ้นช่วงพีค แล้วค่อย ๆ ลงกลับไปสู่จุดสมดุลใหม่
อยากให้จุดนั้นอยู่ราวแถวกลางเดือนพฤษภาคม ที่เด็กนักเรียนกำลังเปิดเทอมใหม่กันพอดี หลังจากที่เยาวชนของชาติมีการชะงักงันทางการศึกษามากว่าสองปีแล้ว ทุกฝ่ายมาช่วยกันทำให้ความฝันของผมเป็นจริงด้วยนะครับ
ถ้าไม่นับปัจจัยเรื่องการปฏิเสธวัคซีน การฉีดวัคซีนไม่ครบด้วยเหตุผลทางสุขภาพ หรือเหตุอื่น การฉีดวัคซีนครบแต่ภูมิไม่ดีเพราะต้นทุนสุขภาพ หรือ การติดเชื้อในขณะที่ร่างกายอ่อนแอ หรือ ป่วยแล้วแต่เข้าโรงพยาบาลไม่ได้เช่น ช่วงพีคเดลตาของบ้านเรา ทำไมเราต้องเสียใครบางคนจากโควิดเมื่อเขาติดเชื้อแล้ว
ทีมนักวิจัยพยายามหาคำตอบทางด้านพันธุศาสตร์ พูดง่าย ๆ คือ หาว่าใครมีความเสี่ยง เพราะฟ้ากำหนดชะตาชีวิตมา ที่จริงเป็นพ่อแม่กำหนดมา เพราะเป็นคนแบ่งชิ้นส่วนทางพันธุกรรมของท่านมาให้เรา
พวกเขารวมตัวกันภายใต้ชื่อว่า COVID Human Genetic Effort (CHGE) ได้ทำการรวบรวมตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งที่มีอาการเล็กน้อย ไปจนถึงขั้นมีอาการวิกฤตและเสียชีวิต
ผลวิจัยพบว่า มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ที่มีลักษณะทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ ที่ไปทำร้ายระบบภูมิคุมกันตัวเอง ในการต่อต้านเชื้อก่อโรคโควิด ทำให้เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว มีโอกาสโรคลุกลามจนคุกคามชีวิตสูง
อนาคตถ้าสามารถตรวจพบคนกลุ่มนี้ได้ก่อน จะเป็นกลุ่มเป้าหมายในการให้วัคซีน และดูแลรักษาเป็นพิเศษเมื่อติดเชื้อ ซึ่งอาจช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของคนกลุ่มนี้ลงได้
แต่ทางที่ดีถ้าเรารักษาระยะห่างจากโควิด ก็ไม่ต้องไปลุ้นความเสี่ยงเหมือนสามล้อถูกหวย https://www.science.org/doi/epdf/10.1126/science.abn9649
ด้วยน้ำใจนักกีฬา ยินดีกับแฟนหงส์ที่ประเดิมถ้วยเล็กสุดได้ก่อน ทั้งที่น่าจะแพ้ถ้าเจ้า VAR ไม่ปากโป้งแจ้งการล้ำหน้าในหลายต่อหลายลูก แต่เจอกันครั้งหน้าเตือนไว้ก่อนล่วงหน้า เส้นทางไม่โรยด้วยดอกกุหลาบแน่ (ขู่เขาทั้งที่ต้นทุนมีน้อยจนไม่มีใครเขาอยากเชื่อ)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอนิธิพัฒน์’ ขอโลกสวย หวัง ‘ลองโควิด’ จากโอไมครอน น้อยกว่าเดลตา
- อย่าสับสน!! MIS-C กับ Long COVID หลังแพทย์วินิจฉัยผิด เด็ก 2 ขวบเสียชีวิต
- อาการ ‘ลอง โควิด’ ตามมาหลังหายป่วย อ่านเคล็ดลับ ฟื้นร่างกาย-สภาพปอด
