“หมอเฉลิมชัย” คาดโควิดระลอก 4 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ประเมินผู้ติดเชื้อรายวันพุ่ง 5 หมื่น- 1 แสนคน ขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาล
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย ประเมินแนวโน้มโควิดระลอก 4 หวั่นผู้ติดเชื้อพุ่งถึงหลักแสนคน หากมาตรการรัฐไม่เหมาะสม วัคซีนไม่ได้ตามเป้าหมาย ประชาชนหย่อนวินัย โดยระบุว่า
แนวโน้มโควิดระลอกที่สี่ ผู้ติดเชื้อ 5 หมื่นรายต่อวัน เสียชีวิต 70 รายต่อวัน
จากสถานการณ์โควิดระลอกที่ 4 ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ ผู้รักษาตัวอยู่ และผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องในขณะนี้นั้น
เกิดจากลักษณะธรรมชาติของไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ติดต่อกันได้ง่าย
กล่าวคือ ติดง่ายกว่าไวรัสเดลตา 4-6 เท่า แต่มีความรุนแรงทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าเดลตา 5 เท่า
เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวข้างต้น มาประกอบกับสถิติโควิดระลอกที่ 3 ของประเทศไทย ซึ่งเกิดจากไวรัสเดลตา ก็พอประมาณการได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ (PCR+ATK)ในระลอกที่ 4 นี้ น่าจะอยู่ประมาณ 5 หมื่นรายต่อวัน และการเสียชีวิต น่าจะประมาณ 70 รายต่อวัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
โควิดระลอก 4 เทียบระลอก 3
1. จำนวนผู้ติดเชื้อ
พบว่าในระลอกที่ 3 มีจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันสูงสุดที่ 23,418 ราย (13 สิงหาคม 2564) โอไมครอนติดง่ายกว่า 4 เท่า จึงประมาณการได้ว่า อาจจะพบผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 93,672 ราย
แต่ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากคือ มีการฉีดวัคซีนในระลอกนี้ มากกว่าระลอกที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้ผู้จำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับราว 5 หมื่นรายต่อวัน
ทั้งนี้ต้องมีปัจจัยสนับสนุนประกอบด้วย มาตรการของรัฐที่มีความเข้มข้นเหมาะสมกับสถานการณ์ มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ครบ 50 ล้านคน และวินัยของประชาชนที่ยังป้องกันตัวเองกันเป็นอย่างดี
ถ้าขาด 3 ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น โอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะมากกว่าวันละ 5 หมื่นรายก็เป็นไปได้สูง
โดยลักษณะของจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน จะทยอยพบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือ ATK เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าน่าจะแซงหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจยืนยันด้วย PCR
เนื่องจากผู้ติดเชื้อจากไวรัสโอไมครอน ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ จึงมักจะไม่ได้ไปตรวจด้วยวิธี PCR ที่สถานพยาบาล แต่มักจะซื้อชุดตรวจ ATK มาตรวจด้วยตนเองที่บ้าน เนื่องจากมีราคาถูก ทราบผลรวดเร็ว และหาซื้อได้ง่ายพอสมควร
2. จำนวนผู้เสียชีวิต
เนื่องจากไวรัสโอไมครอนมีความรุนแรงน้อย ทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าเดลตา 5 เท่า ในช่วงที่เดลตาระบาดระลอกที่ 3 พบอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1% จึงคาดว่าการเสียชีวิตจากโอไมครอนน่าจะอยู่ที่ 0.2%
เมื่อคาดการณ์ผู้ติดเชื้อวันละ 5 หมื่นราย จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเกิน 100 ราย
แต่เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง 8 กลุ่ม ก็จะส่งผลทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย น่าจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 70 ราย
แต่ถ้าสามารถระดมฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ได้ครบ 100% จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะต่ำกว่า 50 รายได้
ทั้งนี้มีตัวแปรที่สำคัญคือ จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลัก ซึ่งจะต้องบริหารจัดการ ให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยอยู่ที่โรงพยาบาลสนามและแยกกักที่บ้าน
เพื่อทำให้เตียงในโรงพยาบาลหลัก มีว่างเพียงพอที่จะรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางถึงอาการหนักไดั ก็จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต เป็นไปตามประมาณการดังกล่าวข้างต้น
กล่าวโดยสรุป
1. โควิดระลอกที่ 4 จากไวรัสโอไมครอน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง
2. จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน จะขยับตัวขึ้นไปอยู่ที่ราว 5 หมื่นราย ถ้ารัฐออกมาตรการที่เหมาะสม ฉีดวัคซีนได้ดี ประชาชนมีวินัยและร่วมมือกันอย่างดี
3. ถ้ามาตรการของรัฐไม่เหมาะสม วัคซีนไม่ได้ตามเป้าหมาย และวินัยของประชาชนหย่อนยานลง จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะเกินกว่า 5 หมื่นราย ไปแตะ 1 แสนรายต่อวันได้
4. จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 70 รายต่อวัน และถ้าฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงได้ดี อาจจะอยู่ที่ 50 รายต่อวัน
5. กรณีที่มีการติดเชื้อขึ้นไปแตะระดับ 1 แสนรายหรือมากกว่า อาจจะมีผู้เสียชีวิตเกินกว่าวันละ 100 รายได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอไมครอนระบาดทั่วโลก 3 เดือน ‘หมอเฉลิมชัย’ สรุปให้ เรียนรู้อะไรบ้าง
- ‘ขอนแก่น’ ยกระดับคุมโควิด ห้ามดื่มเหล้าในร้านอาหารทั้งจังหวัด อ่านมาตรการละเอียดที่นี่
- ‘WHO’ ย้ำอีกรอบ โอไมครอน BA.2 อาการไม่รุนแรงกว่าสายพันธุ์ BA.1